“อุตตม” ตีมึน! ไม่เคยพูดลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10%

  • ชี้ทบทวนโครงสร้างภาษีลดเหลื่อมล้ำ
  • มั่นใจการเงินการคลังไทยยังเข้มแข็ง
  • ย้ำเดินหน้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐต่อ

นายอุตตม สาวนายก รวม.คลัง เปิดเผยถึงประเด็นเรื่องนโยบายลดภาษีบุคคลธรรมดา 10% ว่าขอให้มองในกรอบใหญ่ สิ่งที่พรรคพลังประชารัฐเสนอไว้ไม่ได้พูดถึงการลดภาษีโดยตรง แต่พูดว่าถึงเวลาที่ต้องมาทบทวนโครงสร้างภาษีของประเทศ เนื่องจากมีความเหลื่อมล้ำอยู่ อาทิ ภาษีนิติบุคคล 20% และภาษีบุคคลธรรมดา 35% เป็นต้น รวมทั้งต้องดูด้วยว่าการปรับเพิ่มภาษีหรือลดภาษีนั้น สร้างรายได้ หรือเพิ่มรายได้ให้ประเทศอย่างไร ซึ่งต้องไม่กระทบวินัยการเงินการคลัง

ขณะที่นโยบายที่กระทรวงการคลังจะเดินหน้าหลังรัฐบาลแถลงนโยบายในวันที่ 25 ก.ค.นี้  คือ การดูแลเศรษฐกิจในประเทศจากฐานราก และการเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภายในประเทศ  โดยกระทรวงการคลังจะออกมาตรการดูแลเศรษฐกิจในประเทศ พร้อมขับเคลื่อนนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐที่เสนอประชาชนไว้ ซึ่งเป็นนโยบายที่มุ่งเน้นพัฒนาประเทศไทย เพื่อให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขัน และก้าวทันเทคโนโลยี

ทั้งนี้ปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศมีความผันผวนมากทำให้เศรษฐกิจไทยเกิดความเสี่ยง แต่ยังเชื่อมั่นว่าประเทศไทยยังมีความเข้มแข็ง เห็นได้จากผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Fitch Ratings (Fitch) ที่ได้ปรับมุมมองความน่าเชื่อถือของรัฐบาล จากระดับ“มีเสถียรภาพ (Stable outlook)” เป็น “เชิงบวก (Positive outlook) โดย ฟิต เรตติ้ง ระบุว่า การที่ไทยได้ปรับอันดับขึ้น เนื่องจากประเทศไทยมีนโยบายเรื่องการเงินการคลังที่สอดรับกับสถานการณ์ ทำให้ประเทศเกิดความเข้มแข็ง

“ปัจจุบันภาคเกษตร  การค้าขาย อุตสาหกรรม ไม่เหมือนเดิมแล้ว จะต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาดูแล ดังนั้นจะต้องให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะภาคการเกษตร ซึ่งรัฐบาลจะมีวิธีการที่ตอบโจทย์เกษตรกรจริงๆ และลงไปช่วยเหลือให้ตรงจุด คือ การยกระดับ สร้างรายได้ สร้างความมั่นคั่ง รวมทั้งการค้าขายในระดับชุมชน จะต้องคึกคักและมีศักยภาพที่จะพัฒนาต่อไป ซึ่งปัจจุบันกระทรวงการคลังพัฒนาระบบค้าขายออนไลน์หรือ อี-คอมเมิร์ซไว้ให้กับประชาชนแล้ว”

ส่วนเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรจน ที่จะสิ้นสุดโครงการในวันที่ 30 ก.ย.2562 คณะรัฐมนตรี(ครม.)จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเดินหน้าต่อหรือไม่ แต่ถ้าดูจากนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ก็มีแผนจะดำเนินการเรื่องนี้ต่อ โดยจะขยายสิทธิ์ประโยชน์ให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ  เนื่องจากมองว่าเป็นสวัสดิการพื้นฐานที่ประชาชนควรเข้าถึง ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศ

สำหรับมุมมองเรื่องค่าบาทแข็ง คิดว่ามีปัจจัยที่ทำค่าเงินบาทอ่อนและแข็งอยู่ ซึ่งฟิทช์ เรทติ้งส์ ระบุว่า การที่เงินดุลการค้า ดุลบัญชีเดินสะพัดต่างๆ ของไทยเข้มแข็ง เป็นเหตุผลทำให้บาทแข็งขึ้นมาบ้าง แต่ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ โดยเชื่อมั่นว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)จะที่ทำหน้าที่ดูแลเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้

“วันนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาแสดงความยินดีกับตนในโอกาสเข้ารับตำแหน่งรมว.คลัง ซึ่งตนขอบคุณมาก และงานที่พรรคจะทำต่อไปจากนี้ถือเป็นงานที่ต้องทำงานร่วมกัน เนื่องจากวันนี้มีรัฐบาลร่วม มีรัฐสภาอย่างเต็มตัวแล้ว โดยส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐจะให้ความสำคัญสูงสุดในเรื่องการแก้ไขปัญหา สร้างประโยชน์ให้กับประชาชน ซึ่งตนก็พร้อมจะรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะจากทางส.ส. ไม่ใช่แต่เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ทุกกลุ่มทุกพรรคของรัฐบาล เพื่อตอบโจทย์ประชาชนให้ดีที่สุด”