ดาวโจนส์ลบหนัก ร่วงกว่า730จุด บางรัฐประกาศล็อกดาวน์รอบ2

  • นักลงทุนกังวลจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งแรงหลังคลายล็อกดาวน์
  • รัฐเท็กซัส-ฟลอริดา สั่งปิดบาร์ชั่วคราวรอบสอง
  • หุ้นแบงก์ร่วงหนัก หลังเฟดห้ามจ่ายปันผล-ซื้อหุ้นคืน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 26มิ.ย.ที่ 25,015.55 จุด ดิ่งลงแรง 730.05 จุด หรือ -2.84%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,009.05 จุด ร่วงลง 74.71 จุด หรือ -2.42% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 9,757.22 จุด ร่วงลง 259.78 จุด หรือ -2.59%

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนัก และกดดันตลาดให้ลดลบแรก หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศผลทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ประจำปี และสั่งให้บรรดาธนาคารพาณิชย์จำกัดการจ่ายเงินปันผล และห้ามการซื้อหุ้นคืนไปจนถึงอย่างน้อยในไตรมาส 4/2563

ขณะที่หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการคลายล็อกดาวน์ กลุ่มเทคโนโลยี การสื่อสาร และพลังงาน ร่วงลงแรงเช่นกัน

นักลงทุนกังวลภาวะเศรฐกิจจะทรุดลงอีกครั้ง หลังมีรายงานว่า บางรัฐของสหรัฐได้สั่งล็อกดาวน์อีกครั้ง เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้น โดยในวันศุกร์ รัฐเท็กซัสและรัฐฟลอริดาได้สั่งให้บาร์ต่างๆ และสถานบริการบางประเภทปิดชั่วคราวอีกครั้ง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด

ขณะที่ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า ข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐ-จีนจะเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่จีนเตือนว่า การที่สหรัฐเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการดำเนินการของจีนในฮ่องกงและไต้หวันนั้น อาจทำให้จีนไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงที่จะซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐ เป็นปัจจัยซ้ำเติมความเชื่อมั่น

หุ้นเฟซบุ๊ก อิงค์ ร่วง 8.3% หลังยูนิลีเวอร์และเวริซอน คอมมิวนิเคชันส์ อิงค์ และอีกหลายบริษัท คว่ำบาตรการโฆษณาบนเฟซบุ๊ก โดยระบุว่าเฟซบุ๊กไม่ได้ดำเนินการมากพอที่จะหยุดยั้งการแสดงความเห็นที่สร้างความเกลียดชังบนแพลตฟอร์มของเฟซบุ๊ก

หุ้นไนกี้ ร่วง 7.6% หลังเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสขาดทุนเกินคาด โดยได้รับผลกระทบจากการปิดร้านค้า เพราะโรคโควิด-19

อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายหลังคลายล็อกดาวน์ปรับตัวดีขึ้นบ้าง แต่ยังไม่ดีเท่าที่คาดและมีโอกาสลดลงอีกหากการระบาดของโควิด-19รอบสองรุนแรง

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐ พุ่งขึ้น 8.2% ในเดือนพ.ค. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 9.0% หลังจากดิ่งลง 12.6% ในเดือนเม.ย. ขณะที่รายได้ส่วนบุคคล ลดลง 4.2% ในเดือนพ.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 10.8% ในเดือนเม.ย.

ด้านมหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 78.1 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 72.3 ในเดือนพ.ค.