อียู เรียกร้องแก้ปัญหาความตึงเครียด “จีน-ไต้หวัน”

  • เดินหน้าเจรจาและเปิดช่องทางติดต่อสื่อสารกับจีน
  • ย้ำอียูต้องการรักษาสันติภาพช่องแคบไต้หวัน
  • ขณะที่ทูตจีนเตือนอังกฤษอย่าเดินตามรอยสหรัฐฯ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหภาพยุโรป (EU) เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แก้ปัญหาความตึงเครียดจากการที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวัน ด้วยการเจรจาและเปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารกับจีนต่อไป เพื่อป้องกันการเกิดข้อผิดพลาดจนนำไปสู่ความขัดแย้งแบบไม่คาดคิด

โฆษกของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กล่าวว่า EU ปรารถนาที่จะรักษาสันติภาพและสถานะปัจจุบันในช่องแคบไต้หวันเอาไว้ ดังนั้น เราจึงสนับสนุนให้หาทางออกด้วยสันติวิธี โดยเราควรแก้ไขความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันผ่านวิธีการเจรจา และควรรักษาช่องทางติดต่อสื่อสารที่เหมาะสมเอาไว้ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น

นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า EU มีนโยบายจีนเดียวที่ชัดเจน ซึ่งยอมรับว่า รัฐบาลของสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นรัฐบาลตามกฎหมายของจีนเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ขณะเดียวกัน ก็พยายามสานสัมพันธ์อันเป็นมิตร และความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับไต้หวัน

สำหรับการเดินทางเยือนไต้หวันของนางเพโลซี นักการเมืองอเมริกันระดับสูบสุดที่เดินทางเยือนไต้หวันในรอบ 25 ปีนั้น ทำให้จีนออกแถลงการณ์ประณาม และเปิดเผยแผนการตอบโต้ทางเศรษฐกิจและทหาร โดยจีนประกาศออกปฏิบัติการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวัน ทั้งทางทะเลและอากาศระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 4-7 ส.ค.นี้ พร้อมกับประกาศเตือนสายการบินต่างๆ ที่ให้บริการในเอเชีย หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางบินรอบเกาะไต้หวัน ซึ่งเป็นจุดที่จีนจะใช้เป็นสถานที่ซ้อม

ขณะที่นายเจิ้ง เจ๋อกวง เอกอัครราชทูตจีนประจำอังกฤษ เตือนถึงผลกระทบร้ายแรงที่จะตามมา หากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของอังกฤษเดินทางเยือนไต้หวัน พร้อมย้ำว่า การเยือนไต้หวันของนางเพโลซี เข้าข่ายแทรกแซงกิจการภายในของจีน และอาจนำไปสู่ผลกระทบที่ร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอังกฤษ

“เราขอให้อังกฤษปฏิบัติตามข้อตกลงร่วมระหว่างอังกฤษและจีน และอย่าได้ประเมินประเด็นอันละเอียดอ่อนที่เกี่ยวข้องกับไต้หวันต่ำเกินไป รวมทั้งอย่าได้เดินตามรอยสหรัฐฯ”

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความเห็นของนายเจิ้งเกิดขึ้นหลังจากที่หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนรายงานว่า คณะกรรมการกิจการต่างประเทศ ประจำสภาสามัญชนแห่งอังกฤษ กำลังวางแผนเยือนไต้หวันในเดือนพ.ย. หรือต้นเดือนธ.ค. ปีนี้