สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า คณะกรรมาธิการยุโรป (อียู) ได้เผยแพร่สัญญากับบริษัทแอสตร้าเซเนก้า (AstraZeneca:AZ) ผู้ผลิตยาและวัคซีนต้านโควิด-19 รายใหญ่ที่ได้ทำไว้เพื่อซื้อวัคซีน ของบริษัท ท่ามกลางการขาดแคลนวัคซีนบริษัทดังกล่าวต้องขอลดจำนวนส่งมอบให้ขณะที่ทางอียูไม่พอใจ
การเคลื่อนไหวดังกล่าวทางอียูได้ตกลงกับบริษัทแอสตร้าเซเนก้าก่อนที่ ‘อัวร์ชลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน’ ประธานอียูได้เพิ่มแรงกดดันที่บริษัทได้ตัดสินใจลดจำนวนส่งมอบวัคซีนจากที่ได้ทำการลงสัญญาในเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา
โดยเธอกล่าวกับสื่อเยอรมันว่า ได้ขอคำอธิบายจากบริษัทแห่งนี้หลังจากวัคซีนได้รับการอนุมัติใช้งานโดยหน่วยงานควบคุมยาของอียูเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
‘ปาสคาล โซริออต’ หัวหน้าผู้บริหารของ แอสตร้าเซเนก้าได้กล่าวให้สัมภาษณ์เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาดังกล่าวบังคับให้ บริษัทพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตอบสนองความต้องการของอียูโดยไม่บังคับให้บริษัทยึดติดกับตารางเวลาที่เฉพาะเจาะจง
โดยอียูต้องการเผยแพร่สัญญาเพื่อสนับสนุนข้อโต้แย้งที่ว่าบริษัท ได้ยอมรับข้อผูกพันของตน
ทั้งนี้เนื้อหาของสัญญาส่วนใหญ่ถูกทำให้ว่างเปล่าเพื่อปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน รวมถึงบางย่อหน้าที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายวันที่จัดส่งที่รับประกันและทรัพย์สินทางปัญญา
ข้อตกลงในเดือนสิงหาคมได้เซ็นเมื่อ 27 สิงหาคม 2020 สมาชิก EU สามารถซื้อวัคซีนจำนวน 300 ล้านโดส พร้อมซื้อเพิ่มอีก 100 ล้านโดสในอนาคต ในสัญญายังอนุญาตให้สมาชิกสามารถบริจาควัคซีนไปยังประเทศรายได้น้อยได้ด้วย
แต่แหล่งข่าวของอียูกล่าวว่าตอนนี้พวกเขาคาดว่าจะได้รับวัคซีนเพียงประมาณหนึ่งในสี่ของ 100 ล้านวัคซีนที่พวกเขาคาดว่าจะได้รับภายในเดือนมีนาคมซึ่งมีจำนวนน้อยถึง 75 ล้านโดส
อียูอยู่ภายใต้แรงกดดันหลังจากมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการฉีดคซีนในหลายประเทศสมาชิกช้าเกินไป ขณะที่บริษัทดังกล่าวระบุว่าปัญหาการผลิตอยู่ที่โรงงานในเนเธอร์แลนด์และเบลเยียม
เจ้าหน้าที่ของอียูกล่าวว่า บริษัทแอสตร้าเซเนก้า ได้รับการร้องขอให้ส่งวัคซีนบางส่วนที่ผลิตในอังกฤษไปยังอียูเพื่อชดเชยการขาดแคลน แต่ บริษัทกล่าวเมื่อวันพุธว่าสัญญาจากโรงงานผลิตในอังกฤษไม่มีออปชั่นนี้
แต่ ประธานอียู กล่าวว่า สัญญามีความชัดเจนและผูกพันธ์อยู่
