“อิสราเอล” ประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศรอบ 2 นับเป็นชาติแรก หลังตัวเลขติดเชื้อโควิด-19 พุ่ง เริ่มบังคับก่อนปีใหม่ยิว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 กันยายน “เบนจามิน เนทันยาฮู” นายกรัฐมนตรี แห่งประเทศอิสราเอลกล่าวว่ารัฐบาลอิสราเอลจะใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นเวลา 3 สัปดาห์เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รอบใหม่

“การล็อกดาวน์ที่เข้มงวดจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน โดยมีทางเลือกว่าจะขยายเวลาออกไป” เขากล่าวในแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่จะเริ่มปีใหม่ของชาวยิวและวันหยุดนักขัตฤกษ์เพียงไม่กี่ชั่วโมง

“เป้าหมายของเราคือหยุดจำนวนการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นเพื่อลดการติดต่อ” ซึ่งเกินเกณฑ์ผู้ป่วยรายใหม่ 4,000 รายต่อวัน เขากล่าว

มาตรการล็อกดาวน์ที่บังคับใช้ใหม่ถือเป็นมาตรการรุนแรงที่สุดที่อิสราเอลใช้ นับตั้งแต่การล็อกดาวน์ครั้งแรกช่วงปลายเดือนมีนาคมและสิ้นสุดช่วงต้นเดือนพฤษภาคม โดยรวมถึง ห้ามรวมตัวในที่ร่มเกิน 10 คนและห้ามรวมตัวในที่แจ้งเกิน 20 คน

ขณะที่โรงเรียนกับศูนย์การค้าต่างๆ จะถูกปิด ชาวอิสราเอลต้องอยู่ห่างจากบ้านของตัวเองไม่เกิน 500 เมตร ยกเว้นตอนเดินทางไปทำงาน ส่วนสำนักงานที่ไม่ใช่ของรัฐบาลและธุรกิจต่างๆ สามารถเปิดทำการต่อไปได้ แต่ต้องไม่รับลูกค้าเข้าไปภายใน แต่ห้างสรรพสินค้ากับร้านขายยาสามารถเปิดรับลูกค้าได้

“ผมรู้ว่ามาตรการเหล่านี้จะทำให้พวกเราทุกคนต้องได้รับผลกระทบอย่างหนัก” เนทันยาฮูกล่าวและว่า “นี่ไม่ใช่ช่วงวันหยุดที่เราคุ้นเคยเราจะไม่สามารถเฉลิมฉลองกับครอบครัวได้อย่างแน่นอน”

การประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ทำให้เกิดกระแสต่อต้านขึ้นภายในรัฐบาล โดยนาย คาคอฟ ลิตซ์มัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเคหะ ผู้นำพรรคชาวยิวเคร่งศาสนา กล่าวว่า มาตรการนี้จะทำให้ชาวยิไม่สามารถเฉลิมฉลองเทศกาลทางศาสนาต่างๆ ได้ รวมถึงพิธี ยมคิปปูร์ ในวันที่ 27 ก.ย. ซึ่งเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในปฏิทินชาวยิว

“การล็อกดาวน์ที่เข้มงวดจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน โดยมีทางเลือกว่าจะขยายเวลาออกไป” เขากล่าวในแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่จะเริ่มปีใหม่ของชาวยิวและวันหยุดนักขัตฤกษ์เพียงไม่กี่ชั่วโมง

“เป้าหมายของเราคือหยุดจำนวนการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นเพื่อลดการติดต่อ” ซึ่งเกินเกณฑ์ผู้ป่วยรายใหม่ 4,000 รายต่อวัน เขากล่าว

มาตรการล็อกดาวน์ที่บังคับใช้ใหม่ถือเป็นมาตรการรุนแรงที่สุดที่อิสราเอลใช้ นับตั้งแต่การล็อกดาวน์ครั้งแรกช่วงปลายเดือนมีนาคมและสิ้นสุดช่วงต้นเดือนพฤษภาคม โดยรวมถึง ห้ามรวมตัวในที่ร่มเกิน 10 คนและห้ามรวมตัวในที่แจ้งเกิน 20 คน

ขณะที่โรงเรียนกับศูนย์การค้าต่างๆ จะถูกปิด ชาวอิสราเอลต้องอยู่ห่างจากบ้านของตัวเองไม่เกิน 500 เมตร ยกเว้นตอนเดินทางไปทำงาน ส่วนสำนักงานที่ไม่ใช่ของรัฐบาลและธุรกิจต่างๆ สามารถเปิดทำการต่อไปได้ แต่ต้องไม่รับลูกค้าเข้าไปภายใน แต่ห้างสรรพสินค้ากับร้านขายยาสามารถเปิดรับลูกค้าได้

“ผมรู้ว่ามาตรการเหล่านี้จะทำให้พวกเราทุกคนต้องได้รับผลกระทบอย่างหนัก” เนทันยาฮูกล่าวและว่า “นี่ไม่ใช่ช่วงวันหยุดที่เราคุ้นเคยเราจะไม่สามารถเฉลิมฉลองกับครอบครัวได้อย่างแน่นอน”

การประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ทำให้เกิดกระแสต่อต้านขึ้นภายในรัฐบาล โดยนาย คาคอฟ ลิตซ์มัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเคหะ ผู้นำพรรคชาวยิวเคร่งศาสนา กล่าวว่า มาตรการนี้จะทำให้ชาวยิไม่สามารถเฉลิมฉลองเทศกาลทางศาสนาต่างๆ ได้ รวมถึงพิธี ยมคิปปูร์ ในวันที่ 27 ก.ย. ซึ่งเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในปฏิทินชาวยิว