‘อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์’ บุกตลาดต่างประเทศ ปักธงแฟรนไชส์ในเวียดนามรับเศรษฐกิจบูม เตรียมเปิดสาขา 2 ต่อเนื่อง

  • ‘บมจ.อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์’ หรือ ILM ปักธงแฟรนไชส์ประเทศเวียดนาม
  • รับเศรษฐกิจบูมให้สิทธิ์พาร์ทเนอร์ท้องถิ่นประเดิมเปิดสาขาแรกวันที่ 1 พย. 62
  • ในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ก่อนเตรียมเปิดสาขาที่ 2 ในเดือนธ.ค.นี้
  • พร้อมวางแผนขยายการลงทุนต่อเนื่องมั่นใจตลาดตอบรับดี
  • จากปัจจัยการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และตลาดเฟอร์นิเจอร์

นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการบริษัทอินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์จำกัด (มหาชน) หรือ ILM ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกของตกแต่งบ้านครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้วางนโยบายขยายธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ในต่างประเทศภายใต้โมเดลให้สิทธิ์แฟรนไชส์แก่พาร์ทเนอร์ในท้องถิ่น ซึ่งเป็นความร่วมมือกับผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญการทำตลาดในประเทศนั้นๆ โดยที่บริษัทฯไม่ต้องใช้เงินลงทุนเอง หลังจากที่ขยายการลงทุนในประเทศมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระจายการลงทุนในประเทศอื่นๆ ที่มีศักยภาพและแนวโน้มการเติบโตที่ดี ซึ่งจะยกระดับสินค้าอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ตลอดจนก้าวเป็นสินค้าระดับโกลบอลแบรนด์

ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ขยายแฟรนไชส์แล้วใน 7 ประเทศ รวม 16 สาขา ได้แก่ อินโดนีเซีย เนปาล มัลดีฟส์ สปป.ลาว กัมพูชา ปากีสถาน และเมียนมาร์ ล่าสุด บริษัทฯ เข้ารุกตลาดในประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และจะส่งผลดีต่อการขยายธุรกิจแฟรนไชส์ในต่างประเทศและภาพรวมยอดขายของบริษัทฯ 

โดยบริษัทฯ ให้สิทธิ์แฟรนไชส์แก่ VI Furniture Joint Stock Company บริษัทย่อยของ Vietnam Investment Group (VI Group) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจค้าปลีก อาหาร เครื่องดื่ม แฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และได้ทีมงานที่มีประสบการณ์ในธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์เข้ามาบริหารธุรกิจ ล่าสุด วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562ได้เปิดบริการศูนย์จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์สาขาแรก มีพื้นที่ 990 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนถนน Nguyen Thi Minh Khai ในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ ซึ่งเป็นถนนสายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักมากที่สุด โดยจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการอีกครั้งในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ 

ส่วนในเดือนธันวาคมนี้ พาร์ทเนอร์ในเวียดนามมีแผนเปิดให้บริการสาขาที่ 2 อย่างต่อเนื่อง มีพื้นที่ประมาณ 800 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้  นอกจากนี้ ยังมีแผนงานขยายสาขาอีก โดยคาดว่าภายในปี 2563 จะมีสาขาเปิดให้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 6 สาขา เน้นทำเลที่มีศักยภาพในแหล่งช้อปปิ้งและย่านการค้า มีพื้นที่สาขาละ 600 – 1,000 ตารางเมตร

“การขยายแฟรนไชส์ในเวียดนาม บริษัทฯ จะมีรายได้จาก 2 ส่วน คือ ค่าธรรมเนียมสิทธิ์ในการขาย และกำไรจากการขายสินค้าให้แก่แฟรนไชส์ โดยการขยายธุรกิจแฟรนไชส์ในเวียดนามน่าจะได้รับการตอบรับที่ดี และสามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ในการเลือกซื้อสินค้าและบริการเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง รวมถึงเป็นตัวเลือกที่สามารถตอบสนองความต้องการตกแต่งที่อยู่อาศัยของคนเวียดนามได้เป็นอย่างดี” นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กล่าว

กรรมการผู้จัดการ ILM กล่าวว่า เวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพการขยายตัวอย่างก้าวกระโดด โดยมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาอยู่ในระดับ 6 – 7% มาตลอด มีจำนวนประชากรกว่า 96 ล้านคน หรือเกือบ 27 ล้านครัวเรือน มีสัดส่วนประชากรวัยหนุ่มสาวเป็นจำนวนมาก มีรายได้เฉลี่ยประชากรในปัจจุบันอยู่ที่ 2,551 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการเติบโตของเศรษฐกิจ

ขณะที่ภาพรวมตลาดเฟอร์นิเจอร์ในเวียดนามปัจจุบัน มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับปัจจัยบวกจากภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนามที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยปีละ 10.7% โดยเฉพาะโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับกลางและพรีเมียมที่ขยายตัวได้ดี ส่วนแนวโน้มในอีก 5 ปีข้างหน้าคาดว่าภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนามยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอาจชะลอความร้อนแรงลงบ้าง แต่ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดความต้องการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์เพื่อการตกแต่งและปรับปรุงที่อยู่อาศัยตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น 

“ปัจจุบันชาวเวียดนามเปิดรับเฟอร์นิเจอร์หลากหลายสไตล์ เช่น สแกนดิเนเวียน, คอนเทมโพรารี่ (ร่วมสมัย) ฯลฯ และเน้นฟังก์ชันที่สามารถใช้งานได้จริงเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต ขณะที่อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์เป็นหนึ่งในแบรนด์เฟอร์นิเจอร์จากต่างประเทศที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในเวียดนาม โดยมีสินค้าให้เลือกหลากหลายประเภท อาทิ  ชุดห้องนอน ชุดลิฟวิ่งรูม ชุดครัว ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร ตลอดจนโซฟา และที่นอนฯลฯ จึงมั่นใจว่าการขยายแฟรนไชส์ในเวียดนามจะเป็นหนึ่งในตลาดต่างประเทศที่มียอดขายสินค้าเติบโตได้ดี” นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กล่าวปิดท้าย