อินเดียฉุนอังกฤษไม่ยอมรับวัคซีน “โควิชีลด์”

.ถือว่าทำคนที่ฉีดโควิชีลด์แล้วยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

.เตรียมหามาตรการตอบโต้ถ้ายังเคลียร์เรื่องนี้ไม่จบ

.เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปเตรียมฉีดวัคซีนใหม่ ”ไซคอฟ-ดี”

สำนักข่าวซินหัวรางานว่า วานนี้ (21 ก.ย.) รัฐบาลอินเดียย้ำการตัดสินใจของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ที่ไม่ยอมรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 “โควิชีลด์” ของอินเดีย เป็นการ “เลือกปฏิบัติ” พร้อมเตือน อาจตอบโต้หากปัญหานี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข 

หรรษ วรรธน ศฤงคลา รมว.การต่างประเทศ อินเดีย แถลงว่า อินเดียส่งมอบวัคซีนโควิชีลด์ 5 ล้านโดสให้สหราชอาณาจักรตามคำร้องขอของรัฐบาลสหราชอาณาจักร แต่กลับไม่ยอมรับ ซึ่งถือเป็นการเลือกปฏิบัติ

“รมต.กระทรวงกิจการภายนอกของอินเดีย ได้หารือประเด็นนี้อย่างจริงจังกับรมว.ต่างประเทศคนใหม่ของสหราชอาณาจักร หากเขาไม่ได้รับความพึงพอใจ เราก็มีสิทธิกำหนดมาตรการตอบโต้แบบเดียวกัน”

ทั้งนี้ อินเดีย ไม่ได้อยู่ในรายชื่อของประเทศที่สหราชอาราจักรยอมรับการใช้วัคซีน ทำให้ชาวอินเดีย ที่ฉีดวัคซีนโควิชีลด์ครบ 2 โดสของสถาบันเซรุ่มอินเดีย (SII) จะถือว่า ยังไม่ได้ฉีดวัคซัน และต้องกักตัวนาน 10 วันเมื่อเดินทางถึงสหราชอาณาจักร และยังต้องหาเชื้อแบบ PRC ด้วย

สำหรับวัคซีนโควิชีลด์ พัฒนาโดยมหาวิทยบาลัยออกซ์ฟอร์ด และแอสตราเซเนกา บริษัทเภสัชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ และเป็น 1 ใน 2 วัคซีนที่อินเดียใช้งานในโครงการฉีดวัคซีนของประเทศ

ขณะที่รอยเตอร์สรายงานว่า เด็กชาวอินเดียที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปทุกคน มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนตั้งแต่เดือนต.ค. เป็นต้นไป ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่บริษัทคาดิลา เฮลท์แคร์ (Cadila Healthcare) ผู้ผลิตยาของอินเดีย ได้เปิดตัววัคซีนไซคอฟ-ดี (ZyCoV-D) ชนิดดีเอ็นเอตัวแรกของโลก และได้รับอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของอินเดียให้ใช้งานเป็นกรณีฉุกเฉินเมื่อเดือนส.ค. โดยตั้งแต่เดือนต.ค.นี้เป็นต้นไป บริษัทคาดิลา หรือที่เรียกกันว่าไซดัส คาดิลา จะผลิตวัคซีนดังกล่าว 10 ล้านโดสต่อเดือน

วัคซีนดังกล่าวเป็นเพียงยี่ห้อเดียว ที่ได้รับอนุญาตฉีดให้เด็กในอินเดีย ขณะที่วัคซีนอื่นๆ ได้ฉีดในผู้ใหญ่ไปแล้ว 825.9 ล้านโดส จากประชากรเกือบ 1.4 พันล้านคน อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขอินเดีย ยังไม่ได้แสดงความเห็นในเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ