“อาคม” ยันเสียงแข็ง! เดินหน้าต่อไม่หยุด “ภาษีขายหุ้น” เผยคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจร่าง กม.เสร็จเรียบร้อย

วันนี้ (2 ก.พ.66) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า จะมีการเลื่อนหรือยกเลิกการเก็บภาษีขายหุ้น ทำให้กลุ่มหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ หรือโบรกเกอร์ มีการเก็งกำไรนั้น ยืนยันว่าไม่มีการเลื่อนอย่างแน่นนอน โดยยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาตามกฎหมายของคณะกรรมการกฤษฎีกาอยู่ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะลงประกาศราชกิจจานุเบกษาเมื่อไหร่ 

ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจร่างกฎหมายภาษีขายหุ้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ ทั้งนี้ ตามแผนเดินของกระทรวงการคลังต้องการให้ภาษีขายหุ้น ที่จะจัดเก็บในอัตรา 0.11% ของมูลค่าหุ้นที่ขาย (รวมภาษีท้องถิ่นไปแล้ว) สามารถมีผลบังคับใช้ได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 66 นี้ ซึ่งเมื่อมีการจัดภาษีตัวนี้ จะทำให้รัฐบาลมีรายได้ต่อปีประมาณ 15,000-16,000 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม ในปีแรกของการบังคับใช้กฎหมายภาษีายหุ้นฉบับนี้ จะจัดเก็บในอัตราครึ่งหนึ่งของที่กฎหมายกำหนดคือจะจัดเก็บในอัตรา 0.055 % (รวมภาษีท้องถิ่นไปแล้ว) เพื่อให้เวลาปรับตัวสำหรับนักลงทุน

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติร่าง พระราชกฤษฎีกา การจัดเก็บภาษีจากการขายหุ้น เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว  ซึ่งความจริงภาษีขายหุ้น มีกำหนดอยู่ในประมวลรัษฎากร ของกรมสรรพากรอยู่แล้ว แต่มีการยกเว้นไม่ได้นำมาใช้ เป็นเวลานานถึง 40 ปี เพื่อสนับสนุนการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เติบโตแข็งแรงขึ้น จึงจำเป็นต้องยกเลิกการยกเว้นภาษีดังกล่าว เพื่อสร้างความเป็นธรรมทางภาษีระหว่างคนที่มีรายได้จากการทำงานตามปกติ ที่มีภาระต้องจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กับคนที่มีรายได้จากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ได้รับการยกเว้นเงินได้มาอย่างยาวนาน 

อย่างไรก็ตาม กฎหมายภาษีฉบับนี้ มีข้อยกเว้น ไม่จัดเก็บภาษีสำหรับกรณีการซื้อขายหุ้นผ่าน Market Maker ไม่ว่าจะเป็นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กบข. หรือประกันสังคม จะได้รับการยกเว้นภาษีตัวนี้ เนื่องจากเป็นกองทุนขนาดใหญ่ ที่ช่วยสร้างสภาพคล่องให้กับตลาดหลักทรัพย์

สำหรับในด้านวิธีการจัดเก็บภาษีตัวนี้ กรมสรรพากร จะมอบให้ทางโบเกอร์ เป็นผู้หักภาษี ณ ที่จ่าย นำส่งกรมสรรพากร เนื่องจากโบเกอร์มีภาระหน้าที่ต้องจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากการซื้อขายหุ้นอยู่แล้ว ในส่วนของนักลงทุนที่ถูกหักภาษีตัวนี้ ไม่ต้องนำรายได้จากการขายหุ้นไปรวมคำนวณกับรายได้ของปีนี้ เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพราะถือเป็น Final Tax