“อาคม” ฝาก “ซีอีโอ”​ รัฐวิสาหกิจ 52 แห่ง เบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย หนุนเศรษฐกิจโต

  • เพิ่มประสิทธิภาพนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงาน
  • สคร.ขอให้รัฐวิสาหกิจเร่งจัดทำแผนวิสาหกิจ 5 ปี
  • เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไปในทิศทางเดียวกัน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ภารกิจของรัฐวิสาหกิจมีความสำคัญต่อความมั่นคงและการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบขนส่ง ไฟฟ้า น้ำประปา และโทรคมนาคม ซึ่งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ นอกจากนี้ รัฐวิสาหกิจยังเป็นเครื่องมือในดำเนินนโยบายการคลังและขับเคลื่อนประเทศผ่านการลงทุน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ โดยได้มอบนโยบายแก่รัฐวิสาหกิจ ดังนี้  โดยให้รัฐวิสาหกิจคำนึงถึงทิศทางในอนาคตใน 4 เรื่อง ได้แก่ 1) การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี Digital Disruption และ Digitalization ซึ่งถือเป็นความท้าทายอันดับหนึ่ง และมีผลกระทบต่อการพัฒนารัฐวิสาหกิจ  2) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยรัฐวิสาหกิจจะต้องมีมาตรการหรือแนวทางที่ชัดเจน เพื่อสนับสนุนเป้าหมายแผนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี ค.ศ. 2065 ของประเทศไทย3) การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ซึ่งจะส่งผลต่อการขาดแคลน ด้านแรงงาน โดยรัฐวิสาหกิจต้องพิจารณาใช้เทคโนโลยีเพื่อทดแทนแรงงาน และ 4) ความมั่นคงทางอาหาร รัฐวิสาหกิจต้องสร้างความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานการเกษตร โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจสาขาเกษตร

นายอาคม กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ขอความร่วมมือ CEO ของรัฐวิสาหกิจเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเร่งรัดงานก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามแผน เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการได้ตามกำหนด ปรับแผนการลงทุนให้สามารถเบิกจ่ายได้เร็วขึ้น รวมถึงประสานงานและร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 

นอกจากนี้ มีประเด็นความคาดหวังต่อรัฐวิสาหกิจ โดยขอให้รัฐวิสาหกิจพิจารณาใน 5 เรื่องสำคัญ ได้แก่  1) ประสิทธิภาพ โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการทำงาน 2) การปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์และการให้บริการผ่านการใช้นวัตกรรม 3) มาตรฐานการให้บริการ จะต้องมีเป้าหมายมุ่งไปสู่แนวปฏิบัติที่ดี 4) ความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการและความโปร่งใส จะต้องมีการออกแบบการให้บริการที่เข้าถึงง่ายและมีความโปร่งใส และ 5) การบริหารความเสี่ยง จะต้องมีการจัดทำแผนบริหารความเสี่ยง

นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการ สคร. กล่าวสรุปว่า CEO ของรัฐวิสาหกิจเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจตามแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจฯ ให้สามารถตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 – 2580) และแผนพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ  นอกจากนี้ รัฐวิสาหกิจยังเป็นเครื่องมือของภาครัฐในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยการลงทุนของรัฐวิสาหกิจจะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ กระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจ สร้างการจ้างงาน และเพิ่มการอุปโภคบริโภคในภาพรวม ทั้งนี้ ขอให้รัฐวิสาหกิจเร่งจัดทำแผนวิสาหกิจ 5 ปี และแผนปฏิบัติการประจำปีให้สอดรับกับแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจฯ รวมถึงดำเนินการให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ของแผนดังกล่าว เพื่อให้รัฐวิสาหกิจขับเคลื่อนประเทศไปในทิศทางเดียวกัน และนำประเทศไปสู่ความยั่งยืนต่อไป