“ออริจิ้น” ตั้งเป้ารายได้แตะ 14,000 ล้านบาท ปี 2564

  • มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 20 โครงการ มูลค่า 20,000 ล้านบาท
  • เน้นเปิดตัวแนวราบ 11 โครงการ มูลค่า 10,400 ล้านบาท
  • รุกขยายการลงทุนสร้างรายได้จากการเช่า

นายพีรพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) แถลงถึงแผนธุรกิจปี 2564 ว่า บริษัทมีแผนที่จะรุกเข้าสู่การเป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจร โดยครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่มตั้งแต่  GEN Z (อายุ 11-25 ปี ) GEN Y (อายุ 26-40 ปี ) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้ความสนใจกับที่อยู่อาศัยประเภท คอนโดมิเนียมรวมถึง กลุ่ม GEN Y-GEN X ( อายุ 41-55 ปี) ที่ให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัยประเภทบ้านพักอาศัย และ กลุ่ม Baby Boomer (อายุ56-74 ปี) ที่ให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัยที่คำนึงถึงการดูแลสุขภาพในแบบของ Senior living 

ภายใต้แนวคิดดังกล่าว นายพีรพงศ์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ใน ปี 2564 ทั้งสิ้น 20 โครงการมูลค่า 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็น บ้านพักอาศัย 11 โครงการ มูลค่า 10,400 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 9 โครงการมูลค่า 9,600 ล้าน โดย 3 โครงการแรกของคอนโดมิเนียมอยู่ที่  ศรีราชา กรุงเทพมหานคร และ ระยอง  โดยบริษัทมีเป้าหมายยอดขาย(Presale) ที่  29,000  ล้านบาท  และรายได้ 14,000 ล้านบาท เป็นส่วนของรายได้จากการโอนที่อยู่อาศัย 12,800 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีสินค้าที่ขายและรอโอน (backlog) ทั้งสิ้น 35,834 ล้านบาท ที่จะโอนให้กับลูกค้าได้ในปี 2564-2566 เฉพาะปี 2564 มีโครงการที่พร้อมโอน 14,410 ล้านบาท จาก 12 คอนโดมิเนียม 

ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและการขาย 81 โครงการ มูลค่า 125,278 ล้านบาท โดยในปี 2563 บริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 10 โครงการ มูลค่า 13,300 ล้านบาท บริษัทมีรายได้รวม 11,114 ล้านบาท กำไรสุทธิ2,660 รายได้ 11,114 ล้านบาท จากการโอนโครงการมูลค่า 15,086 ล้านบาท โดย 5,216 ล้านบาทของยอดโอนเป็นส่วนของบริษัทร่วมทุนกันพันธมิตร   

ในขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนขยายการลงทุนไปในธุรกิจที่สร้างรายได้จากการเช่าและการบริการ โดยบริษัทในเครืออย่าง บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด โดยมีแผนที่จะลงทุนเพี่มในธุรกิจใหม่นอกเหนือจากโรงแรม และสำนักงาน กล่าวคือ บริษัทมีแผนที่จะขยายการลงทุนในธุรกิจด้านสุขภาพ Wellness Center ที่รามอินทรา และบางนา ภายใต้การบริหารของ บริษัท ออริจิ้น เฮลท์แคร์ จำกัด 

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนลงทุนในธุรกิจคลังสินค้าโดยร่วมทุนกับ บริษัท เจดับเบิลยู ดี อินโฟโลจิสติกส์จำกัด(มหาชน) โดยมีแผนเปิดตัว ศูนย์กระจายสินค้า (logistic center) ขนาด 62,000 ตารางเมตร ใช้งบลงทุน 1,000 ล้านบาทในปี 2564-2566  และมีแผนเข้าไปลงทุนในธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์(Asset Management Corporation) เพื่อตอบโจทย์กับสถานการณ์ในปัจจุบัน และเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับบริษัท

ในขณะเดียวกันบริษัทยังคงขยายการลงทุนโรงแรมอย่างต่อเนื่องโดยมีเป้าหมายที่จะมีจำนวนห้อง รวม 2,581 ห้องในปี 2567 จากปัจจุบันที่มีอยู่ 650 ห้อง โดยมีแผนที่จะ เปิดอีก 3 แห่งปี 2565 จำนวน 1,065 ห้อง ปี 2566 เปิดอีก  1 แห่งจำนวน  646 ห้อง และปี 2567 เปิดอีก 1 แห่ง 220 ห้อง

“ถึงแม้สถานการณ์ของธุรกิจโรงแรมจะไม่ดีหลังการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส สายพันธ์ใหม่ 2019 ในปี 2563 แต่โรงแรมภายใต้การบริหารของบริษัท 2 แห่ง จำนวน 650 ห้อง มีอัตราการเข้าพัก 55% และ 50% ตามลำดับ โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มธุรกิจที่เช่าระยะยาว” นายพีระพงศ์ กล่าว 

ส่วนของอาคารสำนักงานบริษัทมีแผนที่จะเปิด วัน ออริจิ้น สนามเป้าในปี 2564 และมีแผนลงทุนอีก 1,660 ล้านบาทเพื่อเปิดอาคารสำนักงานอีกแห่งที่พหลโยธิน โดยมีเป้าหมายจำนวนผู้เช่าไม่น้อยกว่า 80% และมีแผนที่จะต้องกองทุนอสังหาริมทรัพย์(REIT) มูลค่าประมาณ 3,300 ล้านบาท หลังการเปิดตัวสำนักงานทั้งสองแห่ง