“อลงกรณ์”ยันรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาประมง

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายกสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ระบุว่ารัฐบาลไม่มีมาตรการในการช่วยเหลือและไม่ได้รับการเหลียวแล และมีการดำเนินการที่ล่าช้ามาก ว่า นายกสมาคมการประมงฯ ได้ร่วมประชุมกับทุกสมาคมประมงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอด 3 เดือนถึง 8 ครั้งและมีการประชุมย่อยอื่น ๆ กว่า 10 ครั้ง ย่อมทราบถึงความใส่ใจของรัฐบาลที่มีต่อชาวประมงและความก้าวหน้าในแต่ละข้อเรียกร้อง ซึ่งมีถึง 34 เรื่อง จึงไม่เข้าใจว่าทำไมถึงออกมาพูดราวกับว่ารัฐบาลไม่เหลียวแล จึงต้องชี้แจงว่าปัญหาประมงที่สะสมหมักหมมมานาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ร่วมกับสมาคมประมงทุกสมาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดการแก้ปัญหาและฟื้นฟูศักยภาพประมง เช่น โครงการสินเชื่อเสริมสภาพคล่องและฟื้นฟูศักยภาพ ทั้งประมงพื้นบ้าน ประมงพาณิชย์ และประมงนอกน่านน้ำ 10,000ล้านบาท โดยรัฐชดเชยดอกเบี้ยกว่า 2,000 ล้านบาท และโครงการซื้อเรือที่ประสงค์จะนำออกนอกระบบกว่า 2,000 ลำ วงเงิน 7,000 ล้านบาทเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรที่ยังยืน เป็นวงเงินรวมกันกว่า 17,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้ลงนามไปตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีอนุมัติต่อไป โดยเฉพาะโครงการสินเชื่อจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) นั้นถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ ธ.ก.ส.จะให้สินเชื่ออาชีพประมง และไม่เคยมีรัฐบาลใดเคยดำเนินการมาก่อน

สำหรับข้อเรียกร้องเรื่องการแก้ไขกฎระเบียบและกฎหมายประมงนั้น นายอลงกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้ตั้งคณะกรรมการและคณะทำงาน ทั้งยกร่างกฎหมายใหม่ เช่น พ.ร.บ.กองทุนประมง และ พ.ร.บ.สภาการประมงแห่งชาติ ให้แล้วเสร็จใน 90 วัน รวมทั้งแก้ไขกฎระเบียบ รวมทั้งกฎหมายที่มีบทบัญญัติโทษรุนแรงเกินมาตรฐานสากลและกฎไอยูยู ซึ่งหลายฉบับอยู่ในขั้นตอนกฎษฎีกา และเตรียมเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ส่วนการแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานตามมาตรา 83 ของ พ.ร.ก.ประมงนั้น กรมประมงได้ส่งเรื่องให้กระทรวงแรงงานแล้วเพื่อนำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าว เพื่อดำเนินการจัดหาแรงงานประมงต่อไป

“หลังจากประชุมร่วมกับทุกสมาคมประมง 6 ครั้ง ใน 6 สัปดาห์แรก จนมีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทยและคณะอนุกรรมการ 4 คณะ ได้แก่ 1.คณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงพื้นบ้าน 2.คณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงพาณิชย์ และการประมงนอกน่านน้ำไทย 3.คณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 4.คณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประมงตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อฟื้นฟูและพัฒนาการประมงของไทยแบบยั่งยืน โดยมีการประชุมทันทีหลังมีการแต่งตั้งอย่างน้อย 2 ครั้งในเดือนตุลาคม รวมทั้งสร้างโอกาสให้กับชาวประมงและผู้ประกอบการประมงด้วยการขยายความร่วมมือไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนกลุ่มประเทศแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย รวมทั้งองค์การสากล เช่น ยูเอ็น และองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ” นายอลงกรณ์ กล่าว

ส่วนปัญหาราคาสัตว์น้ำตกต่ำอันเป็นผลเนื่องมาจากการนำเข้าสัตว์น้ำจากต่างประเทศนั้น ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งรัดการบังคับใช้กฎหมาย และมีมาตรการในการควบคุมการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำให้เป็นไปตามมาตรฐานการแก้ไขการทำการประมงผิดกฎหมาย รวมถึงสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างเข้มข้นและจับกุมไปแล้วหลายกรณี เพื่อป้องกันการทะลักเข้ามาของสินค้าสัตว์น้ำที่ผิดสุขอนามัยสัตว์น้ำและได้จากการทำการประมงผิดกฎหมาย