ในโลกปัจจุบัน เวลาจะซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อโทรศัพท์ หรือแม้กระทั่งเงินสำหรับแต่งงานหรือการศึกษา ใครๆ กู้เงินแบงก์กันทั้งนั้น แต่ในภาวะที่เศรษฐกิจตกไม่อู้ฟู่ ซู่ซ่า แบงก์พาณิชย์ก็จะปล่อยสินเชื่อยากหน่อยและอาจจะมีบางคนที่ถูกปฎิเสธสินเชื่อ ทำให้หนึ่งสิ่งที่ “คนกู้” ส่วนใหญ่อยากรู้ คือ เกณฑ์ที่สถาบันการเงินใช้พิจารณาสินเชื่อ ว่ามีอะไรบ้าง ทั้งนี้ การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อแต่ละแบงก์ จะขึ้นอยู่กับนโยบายและหลักเกณฑ์ของแต่ละราย โดยทั่วไปแล้วมีหลัก ๆ ประมาณ 5 ข้อนี้…
- ข้อมูลส่วนตัว และความน่าเชื่อถือของผู้ขอสินเชื่อ เช่น อายุ อาชีพ สถานะภาพสมรส ประเภทของการธุรกิจ ระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้ง ดูประวัติ และวินัยในการใช้เงินและการชำระสินเชื่อในอดีต ซึ่งจะบอกถึงความสามารถในการใช้หนี้และการบริหารจัดการสินเชื่อของคุณในอนาคต
- ความสามารถในการจ่ายชำระหนี้คืนได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ รวมถึงความมั่นคงของรายได้ที่จะนำมาชำระหนี้ในอนาคต เช่น รายได้ในปัจจุบัน ภาระหนี้สินที่มีอยู่ ประวัติการชำระยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและสินเชื่ออื่น ๆ ซึ่งโดยปกติ ค่าผ่อนส่งหนี้รายเดือนทุกประเภทรวมกัน ไม่ควรมากกว่า 30-40% ของรายได้
- หลักประกันการให้กู้ยืม เช่น สินทรัพย์ที่ผู้ขอสินเชื่อนำมาจำนำ หรือจำนอง บัญชีเงินฝากของผู้ขอสินเชื่อ ฯลฯ โดยแบงก์จะมองว่า สินทรัพย์เหล่านี้เป็นแหล่งเงินสำรองสำหรับการชำระหนี้ของผู้ขอสินเชื่อ ในกรณีที่เกิดปัญหารายได้ที่เข้ามารายเดือนไม่สามารถชำระหนี้ได้ รวมทั้งสามารถขายสินทรัพย์ทอดตลาด
- ผู้ค้ำประกัน เพื่อให้สถาบันการเงิน มีความมั่นใจและลดความเสี่ยงหากผู้ขอสินเชื่อไม่ชำระหนี้ตามกำหนด เพราะสามารถให้ผู้ค้ำประกัน ซึ่งมีคุณสมบัติตามที่แบงก์กำหนด ชำระหนี้แทนได้
- ปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบต่อรายได้ของผู้ขอสินเชื่อ เช่น ภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้นเป็นอย่างไร สินเชื่อที่กู้ไปเป็นลักษณะเพื่อการเก็งกำไรหรือไม่ ความมั่นคงในรายได้และการงานเป็นอย่างไร รวมทั้งปัญหาใหญ่ๆ เช่น ปัญหาสงคราม สิ่งแวดล้อม ที่มีผลกระทบต่อความเป็นไปได้ของโครงการลงทุนหรือรายได้ของผู้ขอสินเชื่อ ซึ่งจะมีผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ในอนาคต
ดังนั้น ถ้าผู้ขอสินเชื่อ มีอาชีพการงานและรายได้มั่นคง ไม่เคยมีหนี้สินล้นพ้นตัว มีความสามารถในการชำระหนี้ เชื่อว่าการขอสินเชื่อก็คงไม่ติดปัญหาอะไร แต่หากอาชีพการงานที่ทำอยู่ไม่ใช้งานที่มีเอกสารใบรับรองเงินเดือน หรือเอกสารอื่นน โอกาสการได้เงินกู้ยังมีอยู่ แต่ต้องใช้หลักฐานทางการเงินอื่น ๆ ทดแทน เช่น บัญชีเงินฝาก
และหากถึงที่สุด เราถูกปฏิเสธสินเชื่อ ผู้ขอสินเชื่อสามารถขอทราบเหตุผลของการไม่อนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินเป็นลายลักษณ์อักษรได้ตามกฎหมาย เพื่อให้ผู้ขอสินเชื่อมีข้อมูลที่จะนำมาใช้ปรับปรุง และสามารถขอสินเชื่อได้ใหม่ในอนาคตเช่น รายได้ขณะนี้ไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้ ต้องลดวงเงินให้กู้ลง หรือมีหนี้คงค้างสูงเกินไป
อย่างไรก็ตาม กรณีขอทราบเหตุผลการถูกปฎิเสธนี้ ยังไม่ได้บังคับใช้กับผู้ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่ใช่แบงก์ และสินเชื่อบัตรเครดิต
