“อนุทิน” รอ “ศบค.” เคาะ มาตรการเปิดเมือง ระยะ 2 วอน ผู้ประกอบการยกการ์ดสูงพร้อมฟังข้อเรียกร้องจากกลุ่มผับบาร์

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด (ศบค.)ในวันพรุ่งนี้(26 พ.ย.64) นั้นที่ประชุมน่าจะมีการหารือเรื่องมาตรการการเปิดประเทศระยะที่ 2 ซึ่งกำหนดไว้ว่าจะต้องเกิดขึ้นหลังเดือนธันวาคม โดยเราจะมีมาตรการผ่อนคลาย กับผู้ที่จะเดินทางเข้ามาที่ไทย เช่น เมื่อมาถึงแล้ว ก็ให้ตรวจด้วย ATK แทน RT-PCR เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักเดินทาง และอย่างที่ทราบกันดีว่า นักเดินทาง ก่อนจะขึ้นเครื่อง ต้องทำประกัยสุขภาพตามวงเงินที่กำหนด มีผลตรวจด้วยวิธี RT-PCR ไปจนถึงใบรับรองการฉีดวัคซีน ที่เป็นไปตามข้อกำหนดของไทย เมื่อมาถึงไทย การตรวจด้วย ATK ก็น่าจะเหมาะสมแล้ว แนวทางนี้ ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ แต่ก็ต้องให้ ศบค. พิจารณา

เมื่อถามถึงความกังวลเรื่องอัตราการติดเชื้อที่สูงขึ้นในหลายประเทศ นายอนุทิน กล่าวว่า ประเทศยังคลายล็อกน้อยกว่า และอัตราการได้รับวัคซีนของไทย ก็สูงพอสมควร มาตรการการเฝ้าระวังของไทยเข้มข้นเช่นที่เพิ่งกล่าวไป เพราะเราขอดูทั้งผลตรวจโรค ขอดูใบประกันสุขภาพ เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนต้องครบ จะมาไทย ต้องโชว์เอกสารดังกล่าว มาถึงแล้ว ก็มีการตรวจอีกรอบ ถ้าพบการติดเชื้อต้องรักษาด้วยเงินจากที่นักเดินทางประกันสุขภาพ มาตรการของไทย มีประสิทธิภาพ แต่ที่น่ากังวลคือกลุ่มที่เดินทางเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย

จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงความกังวลว่าจะเกิดคลัสเตอร์ใหม่จากกลุ่มสถานบันเทิง นายอนุทิน ตอบว่า ทุกคนก็กังวลเรื่องนี้ ก็ต้องขอให้ผู้ประกอบการเช็กลิสต์ตัวเองกันให้ดีๆ อยู่บนมาตรการ COVID FREE SETTING ส่วนผับบาร์จะเปิดเมื่อไร ต้องขอรัฐบาลพิจารณาให้รอบคอบ ภาครัฐ พร้อมรับฟังข้อเสนอ แต่ต้องพิจารณาด้วยความระมัดระวัง เพราะปัจจุบัน เวลาตรวจสอบร้านอาหาร ก็ยังพบ บางร้านที่พนักงานฉีดวัคซีนไม่ครบอยู่เลย ขอย้ำว่า ท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านเป็นห่วง 2 เรื่อง คือ ปัญหาโรคระบาด และปัญหาเรื่องปากท้อง รัฐบาลพยายามแก้ไข ให้คนไทย ได้กลับมาทำมาหากิน บนพื้นฐานความปลอดภัย ส่วนเรื่อง พรก.ฉุกเฉินนั้น เป็นตัวช่วยบูรณาการทุกหน่วยงานมาทำงานร่วมกัน