- ตั้งเป้าเร่งการผลิตให้ทุกโรงพยาบาลได้ใช้โดยเร็ว
- เผยแม้สถานการณ์จะดีขึ้นก็ยังกังวลอยู่ต้องไม่ประมาท
- ลั่นภาครัฐพร้อมเร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 เม.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยคณะผู้บริหารในกระทรวงฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหารือเรื่องการใช้นวัตรกรรมในการดูแลรักษาผู้ป่วย โควิด-19 โดยหลังการหารือ นายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องการการสนับสนุนซึ่งกันและกันระหว่างกระทรวงสาธารรสุข และโรงพยาบาลในสังกัดของแต่ละมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรตินั้น ได้คิดค้นอุปกรร์มากมาย ไว้สำหรับการดูแลรักษาผู้ป่วย โควิด-19 ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดี ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข ต้องเข้าไปสนับสนุน ในส่วนของการกระจาย และใช้งานจริง โดยมีกระทรวงวิทยาศาสตร์การแพทย์ คอยตรวจสอบเพื่อรับรองการใช้งาน
ทั้งนี้ตั้งเป้าว่า อุปกรณ์ที่มีประโยชน์ทั้งหลาย จะต้องส่งไปสู่โรงพยาบาลอื่นๆ ด้วยเพื่อแบ่งเบาภาระของคนหน้างานและเมื่อถามว่ากังวลกับสถานการณ์การระบาดหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า กังวลตลอดเวลา แม้สถานการร์จะดีขึ้นแล้วก็ไม่ควรประมาท ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกคน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่ช่วยกันชะลอการระบาดได้ แต่เรายังพบว่าในกรุงเทพมหานคร 3 จังหวัดชายแดนใต้ และภูเก็ต ยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิดขึ้นทุกวัน ซึ่งต้องพยายามตีกรอบการระบาดให้อยู่ในวงแคบที่สุด สำหรับ กทม. กรมการแพทย์ จะประสานกับสถาบันการแพทย์เพื่อคุมโรงให้อยู่ในกรุงเทพ และเร่งยุติการระบาด
“ภาพรวมของทั้งประเทศ การใช้มาตรการรุกคืบที่เข้มงวด อาทิ การเคอร์ฟิว แม้จะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ และได้ผลลัพท์ในการควบคุมการระบาดได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ในอนาคตภาครัฐ จะเร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบแน่นอน” นายอนุทิน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบัน ต้องขอประชาชนให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ในการเว้นระยะห่างระหว่างกัน ลดการเดินทางหากพบว่ามีความเสี่ยง อย่าปิดบังข้อมูล ให้รีบไปตรวจ และบอกข้อมูลกับแพทย์พยาบาลทั้งหมด แพทย์พยาบาลถือว่ามีความสำคัญมาก เราต้องช่วยกันปกป้อง สิ่งที่เราต้องเจอคือรูปแบบการใช้ชีวิตใหม่ ซึ่งเราต้องทำงานไปด้วยและเว้นระยะห่างระหว่างกัน การระมัดระวังตนเอง คือวัคซีนที่ดีที่สุด
