“อธิรัฐ”ตรวจการบ้านการท่าเรือเร่งรัดพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์สร้างรายได้

นายอธิรัฐ  รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามผลการปฏิบัติงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการที่สำคัญของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) พบว่า กทท.ได้มีการยกระดับการให้บริการ การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ และพัฒนาเครื่องมือทุ่นแรงให้มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการให้บริการ โดยโครงการที่สำคัญต่าง ๆ ได้แก่ การพัฒนาท่าเรือให้เป็นท่าเรือสีขาว โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ การบริหารจัดงานให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมายและมีธรรมาภิบาล และอีกส่วนคือการดำเนินธุรกิจด้วยการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่การเป็นท่าเรือสีเขียว รวมไปถึงการจัดตั้งเขตปลอดอากรในพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ (BKP Freezone) โดยคาดว่าจะมีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ ประมาณ 6-7 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งรายได้จากค่ายานพาหนะผ่านท่า และรายได้จากปริมาณสินค้าและตู้สินค้าที่เพิ่มมากขึ้น 

นอกจากนี้  ได้มีแผนการดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ลานวางตู้สินค้า ศูนย์กระจายสินค้า รวมทั้งพัฒนาระบบการขนส่งทางบกและทางราง ให้สามารถรองรับการเติบโตในอนาคต ลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ และลดปัญหาการจราจรติดขัดภายใน ทกท. และพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ โครงการ Automated Container Terminal และโครงการ BKP Distribution Center 

สำหรับแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่ของ กทท. ได้นำพื้นที่แปลงใหญ่ที่มีศักยภาพมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ ได้แก่ พื้นที่ 17 ไร่ บริเวณด้านข้างอาคารที่ทำการ กทท. และพื้นที่ 15 ไร่ บริเวณโกดังสเตเดียม เพื่อใช้เป็น Marine Logistics Center และ Business Center City รวมทั้งใช้ดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับ กทท. ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างจัดตั้งคณะทำงานร่าง TOR รายละเอียดเงื่อนไขก่อนประกาศผู้สนใจเข้าร่วมการประมูล โดยมีระยะเวลาการให้เช่าพื้นที่ 30 ปี ทั้งนี้ กทท. ได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน (Market Sounding) เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก

นายอธิรัฐ  กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นได้ มอบนโยบายให้ กทท. พัฒนาพื้นที่ในเชิงพาณิชย์ สามารถสร้างรายได้ สร้างมูลค่าได้อย่างยั่งยืน ทั้งในส่วนของท่าเรือกรุงเทพ ท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือภูมิภาคอีก 3 แห่ง เพื่อเป็นแหล่งรายได้เพิ่มเติมนอกเหนือจากรายได้ที่เกิดจากธุรกิจหลักของ กทท. พร้อมสนับสนุนให้ทุกโครงการเกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม โดยให้สอดคล้องกับระเบียบ ข้อกฎหมาย มีความโปร่งใสตรวจสอบได้ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กรและประเทศชาติ