อคส.ชนะคดีฟ้องร้องทุจริตจำนำข้าว-มัน

.รวม 122 คดีจากที่ตัดสินแล้ว 149 คดี

.ได้เงินชดใช้ความเสียหาย 8.4 พันล้านบาท

.จากความเสียหายรวมกว่า 1.11 ล้านล้าน

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ องค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการทวงคืนค่าเสียหายจากคดีทุจริตในโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรของรัฐบาลที่ผ่านมาๆ ทั้งข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และสินค้าเกษตรอื่นๆ ว่า ในช่วงกว่า 3 ปีที่ผ่านมา อคส. ได้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ทั้งคดีแพ่ง และอาญา ในโครการรับจำนำข้าวเปลือก มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 51-57 เฉพาะที่ดำเนินการโดย อคส. และเรียกความเสียหายรวมเกือบ 526,048 ล้านบาท อีกทั้งยังได้เอาผิดทางวินัยเจ้าหน้าที่ของอคส.ไปแล้ว ล่าสุด ศาลได้ตัดสินแล้วหลายคดี และส่วนใหญ่ อคส.ชนะคดี โดยศาลสั่งให้ผู้แพ้ต้องชดใช้ความเสียหายให้อคส.รวม 8,405 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แม้ชนะคดี แต่อคส.ได้อุทธรณ์ต่อ เพราะต้องการเรียกร้องเงินชดเชยให้ได้ตามจำนวนที่ฟ้องร้องไป ส่วนคดีที่แพ้ ก็ได้อุทธรณ์ด้วยเช่นกัน

สำหรับคดีทุจริตจำนำข้าว ตั้งแต่ปี 51-57 ที่อคส.ฟ้องทั้งหมด 1,179 คดีทั้งแพ่งและอาญา เรียกค่าเสียหาย 503,809 ล้านบาท ในส่วนคดีแพ่ง ศาลปกครองได้ตัดสินแล้ว 59 คดี อคส.ชนะ 37 คดี คิดเป็นเงินชดเชยความเสียหาย 2,345 ล้านบาท แพ้ 22 คดี ความเสียหาย 277 ล้านบาท และคดีถึงที่สุดแล้ว 8 คดี ขณะที่คดีอาญา ยังอยู่ในชั้นสอบสวน 805 คดี ศาลอาญา 94 คดี และยังไม่มีคดีถึงที่สุด

ส่วนคดีทุจริตรับจำนำมันสำปะหลังปี 51-57 อคส.ฟ้องร้อง 172 คดี ความเสียหาย 20,585 ล้านบาท นั้น อคส.ชนะ 85 คดี ความเสียหายรวม 6,060 ล้านบาท และแพ้ 5 คดี เป็นคดีอาญาทั้งหมด ความเสียหาย 62 ล้านบาท โดยคดีแพ่งถึงที่สุดแล้ว 25 คดี และอาญา 32 คดี นอกนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง และศาลปกครองสูงสุด

นอกจากนี้ ยังได้ฟ้องร้องคดีแพ่ง และอาญาโครงการจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 51-57 อีก 5 คดี เรียกความเสียหายกว่า 1,449 ล้านบาท และโครงการจำนำสินค้าเกษตรอื่นๆ ตั้งแต่ปี 24 รวม 37 โครงการ อีก 20 คดี เรียกค่าเสียหายกว่า 204 ล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

“ความเสียหายทั้งหมด ถ้ารวมผลขาดทุนจากการขายสินค้าในโครงการจำนำอีก 584,337 ล้านบาท แบ่งเป็น ขายข้าวปี 51-57 ขาดทุน 489,414 ล้านบาท ขายมันปี 51-57 ขาดทุน 32,671 ล้านบาท ข้าวโพด ปี 51-57 และสินค้าอื่นๆ ตั้งแต่ปี 24 ขาดทุนอีก 32,252 ล้านบาทแล้ว อคส.เสียหายรวมสูงถึง 1.11 ล้านล้านบาท”

ขณะที่คดีทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง อคส.เตรียมดำเนินคดีเจ้าหน้าที่และเอกชนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวม 4 คดี คือ 1. คดีละเมิดของเจ้าหน้าที่อคส. ที่ทำให้ อคส. เสียหายประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งผลสอบความรับผิดทางละเมิด ได้นำส่งกระทรวงการคลังแล้วตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.65 ขณะนี้รอกระทรวงการคลังแจ้งยืนยันจำนวนผู้กระทำความผิดให้ราชการเสียหาย และมูลค่าความเสียหาย เพื่อฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไป

2.คดีอาญาทุจริต อคส.ได้ยื่นเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สืบสวนสอบสวน ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.63 ขณะนี้ อยู่ระหว่างรอ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชน 3.คดีอาญาฟอกเงินและคดีแพ่ง รอสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชน ซึ่งได้ยื่นเรื่องแล้วตั้งแต่ 18 ก.ย.63

“คดีทั้งหมด นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ สั่งการให้อคส.เร่งรัดทวงคืนมาให้ได้ และดำเนินการกับผู้ทุจริตทั้งหมดให้ถึงที่สุด เพราะทำให้อคส.เสียหาย และอคส.ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี ซึ่งไม่รวมอยู่ในสัญญาจ้างดำเนินการ ร่วมปีละ 60 ล้านบาท ซึ่งกำลังนำเสนอคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (บอร์ด) เพื่อขอเบิกค่าใช้จ่ายส่วนนี้กับสำนักงบประมาณ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและให้ความเป็นธรรมกับ อคส. ที่ต้องแบกรับภาระนี้มาร่วม 10 ปี รวมมากกว่า 500 ล้านบาท”