- นักลงทุนเสียงแตกติดตาม 3 ปัจจัยเสี่ยง
- ถ้อยแถลงประธานเฟด-2 ผู้นำเจรจาการค้า
- กังวลความขัดแย้งสหรัฐ-อิหร่านเพิ่มขึ้น
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีดาวโจนส์ เข้าสู่แดนลบชัดเจนหลังเปิดตลาด วันที่ 25 มิ.ย.ไม่กี่นาที หลังตลาดยุโรป และเอเชีย ปิดแดงรับความกังวลที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรง จากความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯที่ยกระดับเพิ่มขึ้น
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงาน ตัวเลขดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลดลง 0.32% ลดลง 85.66 จุด โดยดัชนีลดลงมาอยู่ที่ 26,641.88 จุด
ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก ลดลงค่อนข้างแรง โดยลดลง 62.88 จุด หรือ 0.79 % ดัชนีลดลงต่ำกว่า 8,000 จุดอยู่ที่ 7,943.85 จุด ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 0.43% ปิดที่ 2,932.12 จุด ลดลง 13.23 จุด
โดยนักลงทุนมี 3 ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ นโยบายการเงินที่ชัดเจนของธนาคารกลางสหรัฐฯ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น และผลการเจรจาเพื่อยุติสงครามการค้าระหว่าง 2 ผู้นำสหรัฐฯ และจีน
ทั้งนี้ นายเจอโรม พาวเวลล์ มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่สภาวิเทศสัมพันธ์ในเวลา 13.00 น.ตามเวลาสหรัฐฯ หรือเที่ยงคืนนี้ตามเวลาไทย
มีการคาดการณ์กันว่า นายพาวเวลล์จะกล่าวเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ และทิศทางนโยบายการเงินของเฟดซึ่งส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดมีแนวโน้ม 100% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบระหว่างการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ G20 ที่ญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้ ที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 28-29 มิ.ย.
โดยหากการเจรจาล้มเหลวอีกครั้ง เท่ากับจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก และส่งผลรุนแรงต่อราคาหลักทรัพย์ในทุกตลาดทั่วโลก ทั้งนี้ นักวิเคราะห์เชื่อว่า ข้อตกลงยุติสงครามการค้าอย่างเป็นทางการน่าจะยังไม่เกิดขึ้น แต่มีความเป็นไปได้ว่า ผู้นำทั้งสองประเทศจะทำข้อตกลงให้การเจรจาดำเนินต่อไปในเดือน ก.ค.นี้ แต่อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า จะมีข้อตกลงในทางที่ีดีเพื่อลดผลกระทบหรือยุติสงครามการค้าได้ในอนาคต
