หุ้นสหรัฐฯ กลับมาบวกรับอานิสงส์ เศรษฐกิจจีน-ประท้วงฮ่องกงทิศทางที่ดีขึ้น

  • ลดโอกาสซบเซา!จีนประกาศตัวเลขภาคบริการส.ค.ดีสุดในรอบ 3 เดือน
  • “แคร์รี ลัม” ประกาศถอนร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเป็นทางการ
  • นักลงทุนเริ่มเชื่อมั่นดันผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปีกลับมาสูงกว่า 2 ปี

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และสงครามการค้า ทำให้ดัชนีลดลงในวันก่อนหน้า เมื่อเวลาประมาณ 21.50 น.ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 26,277.42 จุด เพิ่มขึ้น 159.40 จุดหรือ +0.61% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวอยู่ที่ 7,939.19 จุด เพิ่มขึ้น 65.03 จุด หรือ +0.84% ส่วนดัชนีเอสเอ็นพี 500 อยู่ที่ 2,926.98 จุด บวกเพิ่มขึ้น 20.71 จุด หรือ +0.71%

นักลงทุนมีความมั่นใจภาวะเศรษฐกิจโลกมากขึ้น หลังจากจีนประกาศตัวเลขภาคบริการขยายตัวสูงสุดในรอบ 3 เดือนในเดือนส.ค. แมได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขภาคบริการของฮ่องกง หดตัว จากปัญหาการกีดกันทางการค้าา รวมทั้งการชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง

อย่างไรก็ตาม นางแคร์รี ลัม ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ได้ประกาศวันนี้อย่างเป็นทางการ ถอนร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังประเทศจีนแล้ว งร่างกฎหมายดังกล่าว เป็นสาเหตุแรกที่ทำให้ชาวฮ่องกงจำนวนมากแสดงความไม่พอใจ และออกมาชุมนุมประท้วงตามท้องถนนเป็นเวลาหลายเดือน เนื่องจากมองว่าร่างกฎหมายนี้จะเปิดทางให้มีการส่งตัวผู้กระทำผิดกฎหมาย หรือผู้ที่รัฐบาลจีนมองว่าเป็นศัตรูทางการเมืองไปยังจีน

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงพุ่งขึ้นราว 4% ขานรับการถอนร่างกฎหมายดังกล่าว ขณะที่ตลาดหุ้นหลายแห่งต่างปรับตัวขึ้นเช่นกัน หลังจากที่เกิดความวิตกก่อนหน้านี้ว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในฮ่องกงจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และจะเป็นอุปสรรคต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

เช่นเดียวกันสถานการณ์ที่คาดว่าจะดีขึ้นในฮ่องกง ทำให้นักลงทุนคลายความวิตก และแสดงออกในตลาดพันธบัตร โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐดีดตัวขึ้นเหนือพันธบัตรระยะสั้นแล้วในวันนี้ โดยพบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ได้ปรับตัวกลับขึ้นไปสูงกว่าพันธบัตรอายุ 2 ปี

ขณะที่ราคาหุ้นของบริษัทสตาร์บัคส์ คอร์ป ดิ่งลงกว่า 3% หลังจากที่บริษัทคาดการณ์ตัวเลขกำไรในปีงบการเงิน 2563 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยสตาร์บัคส์คาดการณ์ว่าตัวเลขกำไรต่อหุ้นในปีงบการเงิน 2563 จะอยู่ในระดับต่ำกว่าแบบจำลองการเติบโตของบริษัทที่ระดับ 10%