หุ้นสหรัฐฯเจอแรงขายทำกำไร ดาวโจนส์ปิดลบกว่า 173 จุด

  • นักลงทุนรอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
  • เทขายทำกำไรทำหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงหนักสุด
  • รอสัญญาณประธานเฟดลดดอกเบี้ยอีกครั้ง ก.ย.นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์วันที่ 20 ส.ค. ปิดที่ 25,962.44 จุด ลดลง 173.35 จุด หรือ -0.66% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,900.51 จุด ลดลง 23.14 จุด หรือ -0.79% และดัชนีแนสแด็กส์ คอมโพซิส ปิดที่ 7,948.56 จุด ลดลง 54.25 จุด หรือ -0.68%

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงหนักสุดในบรรดาหุ้นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ลดลง 1.1% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 1.16% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ดิ่งลง 1.26% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ลดลง 1.27% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ลดลง 1.37% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 2.02%

ขณะที่หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 3.4% หลังจากวอลท์ดิสนีย์เปิดตัวการบริการสตรีมมิ่งของตนเอง โดยจะเปิดให้บริการในประเทศแคนาดาและเนเธอร์แลนด์ ในเดือนพ.ย.นี้ ส่วนหุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 1.3% ท่ามกลางข่าวการฟ้องร้องจากกลุ่มผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก โดยรายงานระบุว่า กลุ่มผู้ใช้งานเฟซบุ๊กในสหรัฐได้ยื่นคำร้องต่อศาลนครซานฟรานซิสโกให้ดำเนินคดีกับเฟซบุ๊ก ฐานไม่แจ้งเตือนผู้ใช้ถึงความเสี่ยงของฟีเจอร์การลงชื่อเข้าใช้งานเพียงครั้งเดียวในทุกอุปกรณ์ ทั้งที่รับรู้ถึงช่องโหว่ของฟีเจอร์ดังกล่าวมาตลอด

หุ้นโคห์ลส์ คอร์ป ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 6.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 2 ที่ระดับ 4.17 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.20 พันล้านดอลลาร์ และยอดขายร่วงลง 2.9% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2.5%

นักลงทุนเทขายเพื่อทำกำไร หลังจาดหุ้นขึ้นต่อเนื่องมา 3 วัน เพื่อลดความเสี่ยง และรอสัญญาณการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของรัฐบาลสหรัฐที่มีข่าวจะออกมาตรการภาษี นอกจากนั้น ยังจับตาการสุนทรพจน์ในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันที่ 23 ส.ค. เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทยของนายเจอโรม พาวเวลล์ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.นี้