หุ้นนิวยอร์กปิดบวกเชื่อเฟดลดดอกเบี้ย -หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหนุน

  • คาดการณ์ดีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งช่วยหนุนตลาด
  • รอลุ้นผลประกอบการบริษัทในตลาดเอสแอนพี 500
  • ยังเชื่อเฟดลดดอกเบี้ยแน่ ประชุม 30-31 ก.ค.นี้ 0.25%

ดัชนีตลาดหุ้นนิวยอร์กวันที่ 22 ก.คกลับมาปิดบวก โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,171.90 จุด เพิ่มขึ้น 17.70 จุด หรือ +0.07% ขณะที่ดัชนีแนสแด็กส์ คอมโพซิท ปิดที่ 8,204.14 จุด เพิ่มขึ้น 57.65 จุด หรือ +0.71% ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,985.03 จุด เพิ่มขึ้น 8.42 จุด หรือ +0.28%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นกลุ่มที่ช่วยดันดัชนี นำโดยหุ้นแอปเปิล ทะยานขึ้น 2.29% หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับเพิ่มเป้าหมายราคหุ้นแอปเปิลขึ้นสู่ระดับ 247 ดอลลาร์ จากระดับ 231 ดอลลาร์ ขณะที่หุ้นอเมซอนดอทคอม เพิ่มขึ้น 1.07% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ดีดตัวขึ้น 0.7% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี พุ่งขึ้น 3.67% และหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ เพิ่มขึ้น 0.6%

ขณะเดียวกัน หุ้นไมโครซอฟท์ ยังพุ่งขึ้น 1.32% หลังจากบริษัทประกาศลงทุนเป็น 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในบริษัท OpenAI ของนายอีลอน มัสก์ เพื่อพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่จะสามารถรับมือกับปัญหาที่ซับซ้อนได้ โดยไมโครซอฟท์หวังว่าจากความร่วมมือในโครงการดังกล่าว จะทำเป็นผู้ให้บริการในธุรกิจคลาวด์ผ่าน OpenAI แต่เพียงผู้เดียว

ขณะที่หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิพดีดตัวขึ้นด้วยเช่นกัน โดยหุ้นอินเทล พุ่งขึ้น 2.14% หุ้นซิลลินซ์ (Xilinx) เพิ่มขึ้น 1.25% หุ้นบรอดคอม เพิ่มขึ้น 2.12% หุ้นสกายเวิร์คส์ โซลูชั่น เพิ่มขึ้น 2.4% หุ้นควอลคอมม์ เพิ่มขึ้น 1.27% หุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 1.7% และหุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) เพิ่มขึ้น 1.05%

นักลงทุนยังจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทจำนวนมากกว่า 25% ในดัชนี S&P 500 จะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ แมคโดนัลด์ และโบอิ้ง รวมถึงบริษัทในกลุ่ม FANG ซึ่งได้แก่ เฟซบุ๊ก อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะออกมาจำนวนมากในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ มีข่าวดีว่า ทำเนียบขาวและสมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสใกล้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับงบประมาณแล้ว ซึ่งจะทำให้มีการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐเป็นเวลา 2 ปี โดยคาดว่า การผ่านกฎหมายงบประมาณรายจ่ายฉบับใหม่ และเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ จะเกิดขึ้นก่อนที่สภาจะปิดสมัยประชุมภาคฤดูร้อนในวันที่ 26 ก.ค. เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) ครั้งใหม่

ส่วนประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ในวันที่ 30-31 ก.ค.นี้ นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ส่วนใหญ่ระบุว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ทวิสต์กดดันเฟดอีกครั้งให้ “การลดดอกเบี้ย” ครั้งนี้เป็นการหั่นในอัตราที่สูงเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ