“หอการค้าไทย-จีน” ชงแนวทางฟื้นฟูการท่องเที่ยว ชูโมเดล “ทราเวิล บับเบิล” ไทย-จีน

  • แนะรัฐ 1 ก.ค.นี้ จัดโครงการนำร่องเปิดน่านฟ้าไทย ให้นักธุรกิจ-นักเรียนนักศึกษาจีน
  • กลุ่มเดินทางมาเยี่ยมญาติ-กลุ่มทัวร์ขนาดเล็ก 5-10 คน
  • เชื่อนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยเดือนละ 11,000 คน ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี

นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน เปิดเผยภายหลังการประชุมเพื่อขับเคลื่อน  “โครงการนำร่องเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทย-จีน” โดยมี 5 สมาคมทางด้านการท่องเที่ยวซึ่งประกอบด้วย สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว,  สมาคมโรงแรมไทย,  สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว,  สมาคมการค้าท่องเที่ยวไทย-จีน และสมาคมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และอีก 2 สายการบินคือ ไทยแอร์เอเชีย และสายการบินไชน่า เซาท์เทิร์น โดยที่ประชุมฯ ได้เสนอ 6 แนวทางให้แก่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19  (ศบค.) เพื่อเร่งฟื้นธุรกิจท่องเที่ยว หลังการแพร่ระบาดของโควิด ดีขึ้น เนื่องจากไทยไม่พบผู้ติดเชื้อ เป็นเวลา 16 วัน และหากจนถึงกลางเดือน มิ.ย.นี้ ก็จะครบ 30 วัน หรือตลอดทั้งเดือนนี้ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อจะทำให้ไทยมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น จึงเป็นโอกาสที่ประเทศไทยจะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ในวันที่ 1 ก.ค.นี้

.แนะรัฐเร่งคลายมาตรการ

“การแพร่ระบาดกินเวลามานาน 2 เดือนแล้ว ทำให้เจ้าของกิจการขาดทุน มีการชะลอการจ้างงาน และถึงขั้นเลิกจ้างพนักงาน หากยังไม่ยุติในอีก 2 เดือนข้างหน้า ประเมินว่าธุรกิจท่องเที่ยวจะขาดทุนอย่างหนักถึงขั้นขายกิจการ ดังนั้น เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น หอการค้าไทยจีนจึงเรียกประชุมสมาชิกเพื่อหารือให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเพื่อเสนอให้รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เนื่องจากประเทศจีนในขณะนี้ มีเกือบ 30 มณฑล ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิดแล้ว จึงเป็นจังหวะที่ดีที่ควรจะเร่งฟื้นการท่องเที่ยวกับจีน เพราะขณะนี้มีนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ นักศึกษาและพี่น้องชาวจีนที่เป็นเครือญาติกันต้องการมาไทยเป็นจำนวนมาก คิดเป็นประมาณ 10% หรือ 110,000 คน ของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าไทยปีที่แล้ว 11 ล้านคน และคนจีนใช้เงินในประเทศไทยมากกว่า 50,000 ล้านบาท”

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า หอการค้าไทยอยากเห็น ศบค.ค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการเหมือนกับที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ที่เริ่มตั้งแต่ เฟส 1 จนถึงปัจจุบัน ได้ผ่อนคลายมาถึงเฟส 3 แล้ว ดังนั้น หากรัฐบาลทยอยเปิดให้สายการบินเริ่มเดินทางเข้าและออกไทยได้ โดยเริ่มจากกลุ่มนักธุรกิจและนักศึกษาจีน ก่อนเป็นอันดับแรกก็จะทำให้คนจีนเดินทางเข้าไทยมากกว่าเดือน 10,000 คน จากปัจจุบันเป็นศูนย์และหลังจากเปิดรับทัวร์ที่เป็นหมู่คณะประมาณ 5-10 คน และมีระบบการคัดกรองที่เข้มงวด โดยเริ่มจากมณฑลของจีนที่ไม่พบเชื้อโควิดแล้ว เป็นระยะเวลา 30 วันจับคู่กับจังหวัดของไทยที่ไม่พบเชื้อ 30 วันเช่นจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น หรือ Travel Bubble ซึ่งก็คือ การจับคู่แลกเปลี่ยน ทัวริสต์ระหว่างไทยกับจีน ก็จะธุรกิจการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาได้ แต่จะให้กลับมาเป็นปกติคาดว่า จะใช้เวลาอีก 1 ปี 

ณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล

.วางเงื่อนไขควบคุมได้

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศจีนอัตราต่ำมากๆ หากเปิดให้นักท่องเที่ยวจีนเข้าเที่ยวในไทยได้แล้ว นักท่องเที่ยวจีน ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของทางการไทย เช่น ต้องลงทะเบียนแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่ประเทศจีนก่อนเดินทางเข้าไทย ไม่น้อยกว่า 72 ชั่วโมง

ด้านนายอนันต์ พิพัฒนนันทร์ นายกสมาคมการค้าท่องเที่ยวไทย-จีน กล่าวว่า การเปิดให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาขอให้เป็นนักท่องเที่ยวจีนที่ซื้อทัวร์เท่านั้น เนื่องจากบริษัททัวร์ จะมีข้อมูลลูกค้าอย่างละเอียดและจะทำตามข้อกำหนดของรัฐบาลไทยอย่างเข้มงวด เช่น เป็นนักท่องเที่ยวจากมณฑลที่ไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด มีการตรวจเชื้อ ก่อนเดินทางตามที่ไทยกำหนด มีการโปรแกรมทัวร์หรือการเดินทางที่ชัดเจน  ซึ่งหากพบ นักท่องเที่ยวติดเชื้อก็สามารถสกัดกั้นได้ โดยถือเป็น “ทัวร์สีขาว” ไม่ใช่ทัวร์ของประเภทเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเอง ที่ไม่สามารถควบคุมได้ 

.สายการบินจีนเสนอ 3 เงื่อนไข

น.ส.จ้าว หยาง ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย  สายการบินไชน่า เซาท์เทิร์น กล่าวว่า ทางสายการบินมีข้อเสนอดังนี้ 1.เปิดให้ชาวจีนเดินทางเข้าไทยได้โดยพิจารณาให้กลุ่มนักธุรกิจ นักศึกษา และนักท่องเที่ยวแบบเยี่ยมญาติก่อนในขั้นต้น 2. ผ่อนปรนหรือยกเลิกการกักตัว14วัน และยกเลิกการซื้อประกันภัย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง โดยยังคงใบรับรองแพทย์ก่อนบิน (Fit-to-fly) 3.ขอให้พิจารณาผ่อนปรนให้ผู้โดยสารผ่านแดน หรือTransit  สามารถมาเปลี่ยนเครื่องบินที่ประเทศไทยได้ โดยต้องตรวจสอบถึงจุดหมายปลายทาง ณ ประเทศนั้นๆ  ว่ารับผู้ โดยสารสัญชาตินั้นๆ หรือไม่ อาทิเช่น  ผู้โดยสารจีนเดินทางจากสหรัฐฯ มาเปลี่ยนเครื่องที่ไทยเพื่อเดินทางกลับจีน

“ไชน่า เซาท์เทิร์น เป็นสายการบินที่มีเที่ยวบินมากที่สุดของจีน มีเครือข่ายการบินที่ครอบคลุมทั่วประเทศจีน เดิมก่อนโควิดมีเที่ยวบินไทย-จีน ประมาณวันละ 20 เที่ยวบิน  ปัจจุบัน ตามนโยบายของกรมการบินพลเรือนของจีนอนุญาตให้ทำการบินได้เพียง 1 เส้นทาง 1 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยปัจจุบัน มีเที่ยวบิน กรุงเทพ-กวางเจา ทุกวันพุธ  โดยบินเครื่องเปล่ามารับผู้โดยสารชาวจีนจากกรุงเทพกลับกวางเจา  เพราะนโยบายทางไทยไม่เปิดประเทศ แต่ยังสามารถรับขนส่งสินค้าได้ทั้งขาเข้า และขาออก ทำให้สายการบินมีภาระต้นทุนสูง ค่าตั๋วโดยสารแพงขึ้น”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแผนนำร่องเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทย-จีน 6 แนวทาง ประกอบด้วย 1.การกำหนดพื้นที่สีขาว ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงแรมหรือรีสอร์ทที่เข้ามาร่วมโครงการ เช่น ตั้งบริเวณชายทะเล หรือเกาะ ที่มีความพร้อมทางด้านสาธารณะสุข มีการท่องเที่ยวเชิงนิเวศฯ เป็นต้น 2.การคัดเลือกโรงแรมหรือรีสอร์ท ที่ได้มาตรฐาน SHA ซึ่งเป็นการกำหนดแนวทางปฏิบัติแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย “กิน พัก เที่ยว” 3.มีใบรับรองการตรวจเชื้อโควิด ก่อนการเดินทาง 4.เมื่อนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยต้องลงทะเบียนแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” และปฏิบัติตามสาธารณสุขไทย 5.นักท่องเที่ยวเมื่อถึงที่พักสามารถเดินทางท่องเที่ยวต่อไปได้ และ 6.ก่อนเดินทางกลับจีน หากอยู่ประเทศไทยเกิน 14 วัน ต้องตรวจเชื้อโควิด-19 ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางกลับจีน และมีใบรับรองแพทย์