หอการค้าไทยตบเท้าเข้าพบ “พล.อ.อนุพงษ์”

.ร้องให้ผู้ว่าจังหวัดเร่งกระจายฉีดวัคซีนทั่วประเทศ

.เสนอตัวพร้อมช่วยสหนุนทั้งสถานที่-อุปกรณ์จำเป็น

.อ้อนลด/ยกเว้นเก็บภาษีป้าย 1-2 ปีเยียวยาพ่อค้าภูธร

นายสนั่น  อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ค.64 ได้นำคณะกรรมการหอการค้าไทย  เข้าพบ พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เพื่อหารือแนวทางการประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน ในการเร่งกระจายการฉีดวัคซีป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชน เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศ โดยได้ขอให้กระทรวงมหาดไทย มีข้อสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ให้เป็นผู้นำในการประสานความร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และภาคเอกชนในพื้นที่ เพื่อให้การทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพ โดยล่าสุด ทีมสนับสนุนการกระจายและฉีดวัคซีนของหอการค้าไทย ร่วมกับเครือข่ายภาคเอกชน ได้รวบรวมสถานที่ฉีดวัคซีนทั่วประเทศ จากภาคเอกชนแล้ว 372 แห่ง แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 82 แห่ง ต่างจังหวัด 290 แห่ง รวมทั้งสนับสนุนอุปกรณ์จำเป็น เช่น คอมพิวเตอร์ ปริ้นเตอร์ เครื่องอ่านบัตรประชาชน อาสาสมัคร พร้อมอาหารและน้ำดื่ม 

นอกจากนี้ ยังได้ขอให้พิจารณาแต่งตั้งให้ภาคเอกชน หรือคณะกรรมการร่วมภาคเอกชนระดับจังหวัด(กกร.จังหงัด) ร่วมเป็นที่ปรึกษา หรือกรรมการในคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อในระดับจังหวัด เพื่อร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาครัฐ ในการสนับสนุนด้านสาธารณสุข กำหนดมาตรการ ควบคู่กับการฟื้นฟูเยียวยาเศรษฐกิจของพื้นที่ เช่น ปรับลดอัตราภาษีป้ายที่มีอัตราการจัดเก็บใหม่ หรือยกเว้นการจัดเก็บออกไปก่อน 1- 2 ปี เพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการในส่วนภูมิภาค เป็นต้น โดยพล.อ.อนุพงษ์ รับข้อเสนอไปพิจารณา และพร้อมรับจะขับเคลื่อนภารกิจเร่งฉีดวัคซีนร่วมกัน เพื่อให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เร็วที่สุด

นอกจากนี้ ยังได้ขอให้พิจารณาแต่งตั้งให้ภาคเอกชน หรือคณะกรรมการร่วมภาคเอกชนระดับจังหวัด(กกร.จังหงัด) ร่วมเป็นที่ปรึกษา หรือกรรมการในคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อในระดับจังหวัด เพื่อร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาครัฐ ในการสนับสนุนด้านสาธารณสุข กำหนดมาตรการ ควบคู่กับการฟื้นฟูเยียวยาเศรษฐกิจของพื้นที่ เช่น ปรับลดอัตราภาษีป้ายที่มีอัตราการจัดเก็บใหม่ หรือยกเว้นการจัดเก็บออกไปก่อน 1- 2 ปี เพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการในส่วนภูมิภาค เป็นต้น โดยพล.อ.อนุพงษ์ รับข้อเสนอไปพิจารณา และพร้อมรับจะขับเคลื่อนภารกิจเร่งฉีดวัคซีนร่วมกัน เพื่อให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม หอการค้าไทย ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือฝ่ายปกครองของจังหวัดในแต่ละพื้นที่ เข้มงวดการอนุญาตสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงมาก รวมถึงเข้มงวด ตรวจตราการจัดกิจกรรมงานรื่นเริง งานที่มีการรวมตัวจำนวนมาก พร้อมขอให้ลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืน และผู้ควบคุมดูแลอย่างจริงจังและรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังขอให้จังหวัดพิจารณานำงบประมาณฉุกเฉิน (งบ ผวจ.) มาใช้ในการจัดหาอุปกรณ์การตรวจหาเชื้อโควิด ช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ และการคัดกรองเชิงรุกประชาชนด้วย