หอการค้าไทยขานรับเปิดกรุงเทพฯ 15 ต.ค.นี้

.คาดนักเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยว 1-1.5 แสนคน/เดือน

.เงินสะพัด 2-3 หมื่นล้านบาทดันจีดีพีทะยาน 0.1-0.2%

.แนะคุมเข้มสถานบันเทิงหวั่นเป็นแหล่งระบาดรอบใหม่

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงนโยบายเปิดกรุงเทพฯในเดือนต.ค.นี้ ว่า เบื้องต้นประเมินว่า การเปิดกรุงเทพฯตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.นี้ คาดจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในกรุงเทพฯ ราว 100,000-150,000 คนต่อเดือน หรือเพียง 3-5% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวกรุงเทพฯในช่วงปกติ ที่ไม่มีโควิด-19 ประมาณ 3 ล้านคนต่อเดือน

“โดยเฉลี่ย นักท่องเที่ยวแต่ละคนจะใช้เวลาท่องเที่ยวประมาณ 8-10 วันต่อทริป ค่าใช้จ่ายต่อหัวประมาณ 50,000 บาท และจากนโยบายนี้ จะทำให้มีเงินสะพัดจากการท่องเที่ยวไตรมาส 4 (ต.ค. – ธ.ค. 64) หรือ 2 เดือนครึ่ง ประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท กระตุกเศรษฐกิจได้ประมาณ 0.1-0.2% และส่งผลให้ต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 64 อยู่ใกล้กรอบ 1% แต่ต้องติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้ออย่างใกล้ชิดว่า จะทำให้นักท่องเที่ยวเชื่อมั่นมากเท่าไร” 

ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากแผนการทยอยเปิดเมือง ที่จะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัวในจังหวัดต่างๆ เพิ่มขึ้นในวันที่ 1 ต.ค. และในกรุงเทพฯ วันที่ 15 ต.ค.นั้น ถ้าสามารถเปิดได้ตามกำหนด จะเป็นการดี ที่จะเรียกความเชื่อมั่นให้เศรษฐกิจกลับมาเดินหน้าได้ แต่ต้องมีมาตรการรองรับเพิ่มเติมที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้การระบาดกลับมารุนแรง

“นอกจากการเร่งฉีดวัคซีนแล้ว ยังต้องมีการควบคุม ให้ภาคธุรกิจ และประชาชนทำตามมาตรการต่างๆ อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะสถานบันเทิง ที่ต้องควบคุมติดตามอย่างใกล้ชิด ไม่ให้เกิดการแอบเปิด และมั่วสุมดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจเป็นแหล่งแพร่ระบาดระลอกใหม่ได้ รวมถึงต้องดูแลแรงงานต่างด้าว ให้ไม่เป็นแหล่งแพร่ระบาดใหม่ด้วย พร้อมกันนั้น ในเดือนช่วงพ.ย.-ธ.ค. รัฐน่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม โดยมีกิจกรรมต่างๆ ออกมาส่งเสริมการเดินทางการท่องเที่ยวด้วย”