“หมอยง” ชี้ผู้ที่เคยปลูกฝีมาแล้ว ร่างกายสามารถปกป้องการติดเชื้อ ‘ฝีดาษวานร’ ได้ดีพอสมควร

  • เผยเชื้อในกลุ่มฝีดาษเป็น DNA virus มีลักษณะพันธุกรรม-โครงสร้างที่คล้ายกันมาก สามารถป้องกันข้ามสายพันธุ์ได้
  • ชี้คนที่เคยปลูกฝี โดยใช้ vaccinia ไวรัส ตั้งแต่เมื่อ 40 ปีที่แล้ว มาตรวจวัดระดับภูมิต้านทานวันนี้ไม่ได้ เพราะนานมาแล้ว
  • เผยหากต้องฉีดวัคซีนในเจเนอเรชั่นใหม่ ก็ใช้แต่เพียงเข็มเดียวก็เพียงพอ
  • ไม่จำเป็นต้องฉีดถึง 2 เข็ม ให้เป็นเพียงกระตุ้นหน่วยความจำเดิม ตามหลักวิชาของวัคซีน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 ก.ย.65) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก : Yong Poovorawan โดยมีเนื้อหากล่าวถึงเรื่อง ฝีดาษวานร ดังนี้…

ฝีดาษวานร ผู้ที่เคยปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษมาแล้ว

ยง ภู่วรวรรณ

ราชบัณฑิต

6 กันยายน 2565

การปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ไม่ได้เป็นการใช้เชื้อของไข้ทรพิษโดยตรง แต่ใช้ vaccinia ไวรัส ซึ่งแต่เดิมเข้าใจว่าเป็นฝีดาษของวัว มาใช้ปลูกให้คน แล้วภูมิต้านทาน ข้ามไปป้องกันเชื้อไข้ทรพิษหรือฝีดาษของคน

เชื้อในกลุ่มฝีดาษเป็น DNA virus  มีลักษณะพันธุกรรมและโครงสร้างที่คล้ายกันมาก จึงสามารถป้องกันข้ามสายพันธุ์ได้

ฝีดาษไม่ว่าจะเป็นฝีดาษคนหรือฝีดาษลิง มีระยะฟักตัวยาวนาน 7-14 วัน โดยเฉลี่ย 9 วันนับตั้งแต่เริ่มรับเชื้อจนถึงมีอาการ ซึ่งต่างกับ covid 19 ระยะฟักตัวที่สั้นมาก ค่าเฉลี่ยขณะนี้อยู่ที่ 3 วัน

โรคอะไรก็ตามแต่ที่มีระยะฟักตัวยาวนาน ถึงแม้ภูมิคุ้มกันจะตกลงไปแล้ว การตรวจวัด ภูมิต้านทาน ระดับภูมิต้านทานอาจจะตรวจวัดไม่ได้หรือได้ต่ำมาก แต่ในทางป้องกันโรคสามารถยังคงมีหน่วยความจำ และเมื่อได้รับเชื้อก็จะกระตุ้นขึ้นมาป้องกันการเกิดอาการได้

ยกตัวอย่างเช่นไวรัสตับอักเสบบี มีระยะฟักตัวยาวนาน  1 – 6 เดือน ดังนั้นเมื่อฉีดวัคซีนมีภูมิขึ้นแล้วถึงภูมิจะต่ำกว่าระดับความต้านทานในการป้องกันการเกิดโรค เมื่อได้รับเชื้อก็ไม่เกิดการติดเชื้อ ทั้งนี้เพราะเมื่อรับเชื้อเข้าไปในร่างกายจะกระตุ้นภูมิต้านทานขึ้นมา และสามารถปกป้องการเกิดอาการหรือการติดเชื้อได้ 

เช่นเดียวกันกับ HPV ที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก ในปัจจุบันพบว่า การให้วัคซีนเพียงเข็มเดียว ก็มีประสิทธิภาพที่ดีทีเดียว เพราะเมื่อผมขึ้นแล้ว ถึงแม้ระดับภูมิต้านทานจะน้อยกว่า 2 เข็ม ประสิทธิภาพก็ยังเพียงพอในการที่จะป้องกันการติดเชื้อได้ เพราะ HPV มีระยะฟักตัวยาวนาน

ดังนั้นคนที่เคยปลูกฝีมาแล้ว โดยใช้ vaccinia ไวรัส ตั้งแต่เมื่อ 40 ปีที่แล้ว มาตรวจวัดขณะนี้จะตรวจวัดระดับภูมิต้านทานไม่ได้ เพราะนานมาแล้ว แต่อย่างไรก็ตามร่างกายมีหน่วยความจำ และฝีดาษวานรมีระยะฟักตัวยาวนานถึง  7-14 วัน หรือถ้าจะเหลืออยู่ที่ 9 วัน ก็ยังมีเวลาเพียงพอที่ให้หน่วยความจำกระตุ้นสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาปกป้องการติดเชื้อไวรัสได้ หรือถึงแม้จะติดเชื้ออาการก็จะไม่รุนแรง ดังนั้นระดับภูมิต้านทานที่ตรวจวัดได้จากคนที่ปลูกฝีมานานแล้ว จึงไม่สามารถบอกได้ทางคลินิก ว่าไม่สามารถป้องกันโรคได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะฟักตัวของโรค โดยเฉพาะโรคที่มีระยะฟักตัวยาวนาน 

ผู้ที่สัมผัสเชื้อฝีดาษวานร ภายใน 4 วัน การฉีดวัคซีนก็ยังสามารถป้องกันได้ 

ผู้ที่เคยปลูกฝีมาแล้ว จึงทำให้เชื่อได้ว่าน่าจะปกป้องการติดเชื้อฝีดาษวานรได้ดีพอสมควร และหรือถ้าจำเป็นจะต้องฉีดวัคซีนในเจเนอเรชั่นใหม่ ก็ใช้วัคซีนเพียงเข็มเดียวก็เพียงพอไม่จำเป็นต้องฉีดถึง 2 เข็ม เป็นเพียงกระตุ้นหน่วยความจำเดิม ตามหลักวิชาของวัคซีน