- เผยสถานการณ์โควิดในประเทศยังไม่ดีขึ้น
- ชี้จะเห็นแนวโน้มการระบาดที่ชัดเจนหลังพ้นปลายเดือน ก.ย.นี้
- หากคุมไม่ได้ น่าจะมีโอกาสสูงขึ้นกว่าเดิม
- ลั่นกลุ่มคนที่ผลักดันนโยบายนี้ ต้องรับผิดชอบต่อผลกระทบที่ตามมา
วันนี้ (22 ก.ย.64) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ โควิด-19 ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาระบุว่า…
สถานการณ์ทั่วโลก 22 กันยายน 2564…
ทะลุ 230 ล้านไปแล้ว
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 440,211 คน รวมแล้วตอนนี้ 230,259,239 คน ตายเพิ่มอีก 7,989 คน ยอดตายรวม 4,721,450 คน
5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุด ยังคงเป็นเช่นเดิมคือ อเมริกา สหราชอาณาจักร ตุรกี อินเดีย และรัสเซีย
อเมริกา ติดเชื้อเพิ่ม 111,538 คน รวม 43,229,414 คน ตายเพิ่ม 1,861 คน ยอดเสียชีวิตรวม 696,799 คน อัตราตาย1.6%
อินเดีย ติดเพิ่ม 27,242 คน รวม 33,529,986 คน ตายเพิ่ม 383 คน ยอดเสียชีวิตรวม 445,799 คน อัตราตาย 1.3%
บราซิล ยังไม่มีรายงานติดเชื้อใหม่ รวม 21,247,667 คน ตายเพิ่ม 484 คน ยอดเสียชีวิตรวม 591,518 คน อัตราตาย2.8%
สหราชอาณาจักร ติดเพิ่ม 31,564 คน ยอดรวม 7,496,543 คน ตายเพิ่ม 203 คน ยอดเสียชีวิตรวม 135,455 คน อัตราตาย 1.8%
รัสเซีย ติดเพิ่ม 19,179 คน รวม 7,313,851 คน ตายเพิ่ม 812 คน ยอดเสียชีวิตรวม 199,808 คน อัตราตาย 2.7%
อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส ตุรกี อิหร่าน อาร์เจนติน่า และโคลอมเบีย ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น
หากรวมทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่ามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 96.03 ของจำนวนติดเชื้อใหม่ทั้งหมดต่อวัน
แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลักร้อยถึงหลักพัน
แถบตะวันออกกลางส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ยกเว้นอิหร่านติดเพิ่มหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง
ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และมาเลเซีย ติดเพิ่มกันหลักหมื่น ญี่ปุ่น เมียนมา อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ติดกันหลักพัน กัมพูชา และลาว ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกงและไต้หวัน ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
…สถานการณ์ของไทยเรา
เมื่อวานจำนวนติดเชื้อใหม่ที่รายงาน ยังสูงเป็นอันดับ 10 ของโลก แต่หากรวม ATK จะมีจำนวนติดเชื้อสูงเป็นอันดับ 7 ของโลก มากกว่าฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเวียดนาม
…กล่องทราย
สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น คาดว่าจะเห็นแนวโน้มการระบาดที่ชัดเจนหลังพ้นปลายเดือนนี้ หากคุมไม่ได้ น่าจะมีโอกาสสูงขึ้นกว่าเดิม
…อนาคต
หากปล่อยให้เกิดการขับเคลื่อนนโยบายเปิดเมืองให้อยู่กับโรค ทั้งที่สถานการณ์การติดเชื้อยังมีจำนวนมาก ด้วยระบบสนับสนุนที่มีอยู่ทั้งเรื่องการตรวจคัดกรองโรคที่จำกัด วัคซีนที่มีชนิด ปริมาณ ความครอบคลุมที่จำกัด รวมถึงรูปแบบการใช้ชีวิต ค้าขาย บริการ ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อติดเชื้อกัน ยังไม่ปลอดภัยเพียงพอ
โมเดลกล่องทรายชี้ให้เห็นแล้วว่ามีปัญหา ขนาดเป็นพื้นที่จำกัด ยังเป็นดังที่เห็น
ถ้าขยายมาเมืองหลวง โอกาสที่จะแตกย่อมมีสูงมาก
ประเทศพัฒนาแล้ว ที่มีทรัพยากรต่างๆ มากมายเพียบพร้อมกว่าเรายังเอาไม่อยู่
การอ้างว่าติดเชื้อแล้วป่วยรุนแรงต้องนอนรพ.น้อย ตายน้อยนั้น คงจะยากที่จะเป็นจริงเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ระบาดรุนแรงกลับซ้ำในอนาคต
ประเมินไว้ล่วงหน้า ยากที่จะเอาอยู่ กลุ่มคนที่ผลักดันนโยบายดังกล่าวจำเป็นต้องรับผิดชอบต่อผลกระทบที่ตามมา
นโยบายในลักษณะข้างต้น ส่งผลต่อชีวิตของทุกคน
สำหรับประชาชน ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด
ด้วยรักและห่วงใย