หนุนดันสินค้าเกษตรขายแพลตฟอร์มออนไลน์ รองรับวิถี New Normal

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งทุกหน่วยงานปรับฐานวิถีดำเนินงานภาคการเกษตรใหม่ (New Normal) ทั้งหมดในภาวะที่ยังมีการระบาดของโควิด-19 และหลังสถานการณ์โรคคลี่คลาย ส่วนหนึ่ง คือการเพิ่มศักยภาพของเกษตรกรในการผลิตและเป็นผู้ค้ามืออาชีพ จากนี้ไปการซื้อขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์จะมีความสำคัญยิ่งขึ้น จึงแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์ขึ้นมาดำเนินการเรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรรายงานผลการจำหน่ายสินค้าเกษตรผ่าน www.ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com เปิดตัววันที่29 เม..ที่ผ่านมา ยอดผู้เข้าชมสะสม 2 สัปดาห์ เฉลี่ย 3,212 ครั้ง/วัน มีสินค้าจากทั่งประเทศจำหน่าย 508 รายการแบ่งเป็น 9 ประเภท ได้แก่ อาหารแปรรูปและเครื่องดื่ม ไม้ดอกไม้ประดับ ผัก ข้าวและธัญพืช หัตถกรรมและสิ่งประดิษฐ์  สมุนไพรและเครื่องสำอาง ผลไม้  สินค้าเกษตรอื่น  รวมถึงผ้าและเครื่องแต่งกาย เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ 5 กลุ่ม คือ วิสาหกิจชุมชน Young Smart Farmer (YSF) สมาชิกกลุ่มส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่องค์กรเกษตรกร และ Smart Farmer (SF) รวมรายได้จากการจำหน่ายสินค้า 7,803,638 บาท หรือเฉลี่ย 101,346 บาท/จังหวัด

สำหรับยอดจำหน่ายสินค้าสะสมมากที่สุด 20 จังหวัดแรก ได้แก่ ชัยภูมิ ลำพูน ขอนเเก่น สงขลา มหาสารคาม ตราดจันทบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สกลนคร สมุทรปราการ ตาก อุตรดิตถ์ กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา ตรังพังงา พะเยา พิษณุโลก และปัตตานี ส่วนสินค้าที่มียอดจำหน่ายสูงสุด 20 รายการแรก คือ ส้มโอจีไอ (GI) บ้านแท่นของชัยภูมิ ข้าว กข 43 ของราชบุรี มะม่วงวาริชของสกลนคร ปลาสลิดแดดเดียวของสมุทรปราการเมล่อนของพระนครศรีอยุธยา ต้นพันธุ์อโวคาโดสวนวังพลากรของตาก มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองของขอนเเก่น มะม่วงมหาชนกของมหาสารคาม มังคุดทิพย์พังงา (อินทรีย์ของพังงา ลำไยอบแห้งเนื้อสีทองของลำพูน เม็ดมะม่วงหิมพานต์แปรรูปของอุตรดิตถ์ ทุเรียนพันธุ์หลงลับแลของอุตรดิตถ์ กล้วยตากของพิษณุโลก เมล่อนของตราด และน้ำมะพร้าวน้ำหอม 100% ของปัตตานี พริกแกงบ้านตีนของสงขลา แชมพูดอกอัญชันของกรุงเทพฯ ข้าวสารเพื่อสุขภาพของประจวบคีรีขันธ์  ทุเรียนทอดกรอบของจันทบุรี และข้าวสิริมณีไรซ์ของพิษณุโลก

ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) สำรวจข้อมูลผ่านแบบสอบถามออนไลน์กลุ่มเกษตรกรที่จำหน่ายสินค้าผ่านออนไลน์ 234 กลุ่ม ใน 57 จังหวัด พบว่า ยอดจำหน่ายเดือนมีนาคมกว่า  45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ที่มียอดจำหน่าย 36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26%

กระทรวงเกษตรฯ เล็งเห็นความสำคัญในการเพิ่มช่องทางการตลาดให้เกษตรกรกระจายผลผลิตทางการเกษตรผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์หรือการทำธุรกิจการเกษตรอีคอมเมิร์ซ เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายผลผลิตและสินค้าเกษตร โดยจัดทำหลักสูตรส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพและเป็นนักขายทางออนไลน์มืออาชีพ ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านเศรษฐกิจทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศได้” นายเฉลิมชัย กล่าว