ส.ส.ภูมิใจไทย แจงศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ จากคดีพิพาทสถานบันเทิงไม่เกี่ยวคลิปเสียงแต่อย่างใด

วันนี้(3 พ.ย.) ที่ห้องแถลงข่าวอาคารรัฐสภา เมื่อเวลา 15.00 น. นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย นายสำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายขื่อ พรรคภูมิใจไทย แถลงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายสำลีหยุดปฏิบัติหน้าที่ กรณีมีผู้ร้องกล่าวหาว่านายสำลี ขาดคุณสมบัติที่จะเป็นส.ส.

นายศุภชัย กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวมีการขยายความไปในลักษณะว่าเกิดจากข้อเท็จจริงเรื่องบันทึกคลิปเสียง ซึ่งไม่ใช่กรณีที่ศาลรับคำร้องไว้ แต่ข้อเท็จจริงคือนายสำลีเคยมีคดีอาญาช่วงปี 2532 – 2533 กรณีที่นายสำลีมีบ้านพักใกล้สถานบันเทิงใน จ.มหาสารคาม ซึ่งมีการแสดงดนตรีสดส่งเสียงดังรบกวนจนเกิดข้อพิพาทกัน กระทั่งนายสำลีได้เข้าไปที่สถานบันเทิงนั้น และถูกแจ้งความดำเนินคดีบุกรุกทำให้เสียทรัพย์ ท้ายที่สุดศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกนายสำลี 5 ปี แต่ให้รอลงอาญาไว้ 3 ปี โดยให้บำเพ็ญประโยชน์ตามเงื่อนไข ซึ่งนายสำลีไม่ได้เข้าเรือนจำแต่อย่างใด แต่เป็นโทษรอลงอาญาไว้ เรื่องที่เกิดขึ้นจึงเป็นที่มาที่มีผู้ร้องว่ากรณีนี้ท่านขาดคุณสมบัติหรือพ้นสภาพสมาชิกหรือไม่

ทั้งนี้ เรื่องนี้เป็นช่วงเวลาก่อนที่นายสำลีจะมาเป็น ส.ส.พรรคภูมิใจไทย และวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญก็ยังไม่ได้วินิจฉัยให้พ้นสมาชิกภาพ แต่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เป็นเรื่องที่ท่านถูกโทษทางอาญาไม่ใช่เรื่องคลิปเสียงตามที่เป็นข่าว ซึ่งเรื่องคลิปเสียงไม่เคยเป็นคดีมาเลย หลังจากนี้นายสำลีก็จะต่อสู้คดีตามแนวทางต่อไป

นายสำลี กล่าวว่า ตรงพื้นที่บ้านของตนมีผับบาร์มาตั้งติดกับบ้านพัก มีการแสดงดนตรีสดเป็นเวลาหลายปี ได้รับความเดือดร้อนจากเสียงรบกวน และได้ร้องเรียน 3 ผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ไม่มียุคสมัยใดแก้ปัญหาได้เลย ช่วงที่เกิดเหตุตนเป็นคนเขียนหนังสือจำหน่ายให้สำนักพิมพ์ ทางสำนักพิมพ์กำหนดให้ส่งต้นฉบับให้เร็ว แต่เมื่อมีเสียงรบกวนจากสถานบันเทิงดังกล่าว ทำให้เขียนหนังสือไม่ได้ จนเกิดความเครียดจนสติหลุด เข้าไปบุกร้านยามวิกาล ทำให้ถูกกล่าวหาว่าเข้าไปขโมยของ ขณะนั้น ทนายบอกให้รับสารภาพ จะไม่มีผลเรื่องการสมัครส.ส. ในที่สุดศาลตัดสินให้ลงโทษรอลงอาญา และศาลให้บำเพ็ญประโยชน์ ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องคลิปเสียงแต่อย่างใด