ส่งออกไทยต้องเผชิญความเสี่ยงจากอุปสงค์โลกที่ชะลอตัวชัดเจน 

  • Krungthai COMPASS ประเมินเศรษฐกิจไทย
  • แนวโน้มส่งออกที่จะชะลอตัวในปี 2566
  • ปัจจัยจากเศรษฐกิจโลกที่แผ่วลง

นายชนม์นิธิศ ไชยสิงห์ทอง นักวิเคราะห์จาก Krungthai COMPASS ระบุว่า มูลค่าส่งออก 11 เดือนแรก ขยายตัว 7.6% มูลค่าส่งออกเดือน พ.ย. อยู่ที่ 22,308 ล้านดอลลาร์ฯ หดตัวต่อเนื่องที่ 6.0%YoY จากเดือนก่อนหน้าที่หดตัว 4.4%YoY ตามการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าเกษตรที่หดตัวต่อเนื่อง จากการชะลอตัวของอุปสงค์ประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น ญี่ปุ่น จีน อาเซียน-5 และ CLMV โดยการส่งออกในช่วง 11 เดือนแรกขยายตัว 7.6% ส่วนการส่งออกทองคำเดือนนี้กลับมาหดตัว 54.4% ทำให้เมื่อหักทองคำแล้ว มูลค่าส่งออกเดือนนี้หดตัว 5.2%

ทั้งนี้Krungthai COMPASS คาดปี 2566 ผู้ส่งออกไทยจะเผชิญความเสี่ยงจากอุปสงค์โลกที่ชะลอตัวชัดเจน การส่งออกไทยในเดือน พ.ย. หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวต่อเนื่องในปี 2566 จากเศรษฐกิจโลกที่แผ่วลงโดยเฉพาะเศรษฐกิจของประเทศหลักอย่าง สหรัฐฯ และยุโรป ที่อยู่ในภาวะชะลอตัวและเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยจากการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดทำให้ต้นทุนทางการเงินปรับสูงขึ้นท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในดับสูง ส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แผ่วลง สะท้อนจากเครื่องชี้กิจกรรมการผลิต (Manufacturing PMI) ที่อยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ต่อเนื่องบ่งชี้ถึงภาคการผลิตที่มีแนวโน้มหดตัวในระยะข้างหน้า

นอกจากนี้อุปสงค์ต่อสินค้าเพื่ออุปโภคบริโภคของโลกมีแนวโน้มชะลอลงหลังจากที่เติบโตได้ดีในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก่อนหน้านี้ ทำให้ความต้องการสินค้าเพื่ออุปโภคบริโภคเปลี่ยนไปสู่ความต้องการในภาคบริการมากขึ้น และออเดอร์คงค้าง (backlog order) ได้ทยอยคลี่คลาย ปัจจัยเหล่านี้จึงกดดันให้การส่งออกของไทยในปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตได้ในระดับต่ำ สอดคล้องกับ Oxford Economics ที่ประเมินว่าปริมาณการค้าโลกในปี 2566 จะหดตัว 0.2% โดยกลุ่มประเทศในแถบเอเชียจะได้รับผลกระทบมากที่สุด