“สุวรรณภูมิ” เปิด 5 สัญญาณดี ผู้โดยสาร+เที่ยวบินพุ่ง 3 หมื่นคน/วัน จัดแถวทุกหน่วยดึงไฮเทค พลิกโฉมบริการรับวันหยุดยาว ก.ค. ฉลุย

  • “สุวรรณภูมิ” เปิด 5 สัญญาณดี “ผู้โดยสารต่างชาติ” พุ่งเกือบวันละ 30,000 คน
  • เที่ยวบินพุ่งวันละ 222 เที่ยว ทุกหน่วยงานกอดคอยกเครื่องบริการใหม่ รับผู้โดยสารขาเข้า-ขาออก
  • เพิ่มสตาฟเคาน์เตอร์เช็คอิน คีออสต์อัตโนมัติ “เช็คตั๋ว/พาสปอร์ต/โหลดกระเป๋า” กว่า 80 เครื่อง
  • “ร้านค้า-ร้านอาหาร/เครื่องดื่ม” ตบเท้าเปิด 100 % ส.ค.นี้
  • เพิ่มบริการใหม่ Common Use louge เข้มแผนขนถ่ายกระเป๋าห้ามตกค้าง
  • แนะวันหยุดยาวตลอด ก.ค.65 ผู้โดยสารขาออกเตรียม 3 เรื่อง
  • “เอกสารตามเงื่อนไขประเทศปลายทาง-เผื่อเวลา-สวมมาสต์ในสนามบิน” เพิ่มความรวดเร็วเดินทางสบายใจ

นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท./AOT” เปิดเผยว่า วางแผนเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้าเขาประเทศ และผู้โดยสารขาออกออกต่างประเทศ หลังจากรัฐบาลให้เปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบเริ่มตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นมา ขณะนี้สนามบินสุวรรณกลับสู่สภาพปกติแล้วเสมือนก่อนจะเกิดโควิด-19 อย่างเห็นได้ชัด พร้อม ๆ กับได้วางกลยุทธ์บริการนักเดินทางทั้งในประเทศและระหว่างประเทศให้ได้รับความสะดวกอย่างเต็มที่ โดยมี 5 สัญญาณที่ดี คือ

สัญญาณที่ 1 “จำนวนผู้โดยสาร” เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม 2565 ผู้โดยสารขาเข้าประเทศมีวันละ21,000-28,000 คน สูงกว่าเดือนมิถุนายนซึ่งมีเพียงวันละ 19,000-20,000 คน นับเป็นตัวเลขที่ส่งสัญญาณดีมากกับประเทศไทย

ขณะที่ “ปริมาณเที่ยวบิน” ในสุวรรณภูมิ ภาพรวมหลัง 1 กรกฎาคม 2565 จนถึงขณะนี้มี “เที่ยวบินในประเทศ” เพิ่มขึ้นเป็น 512 เที่ยว/วัน จากเดิม 200 เที่ยว/วัน “เที่ยวบินระหว่างประเทศ” มีวันละ 222 เที่ยว เป็น “เที่ยวบินขาเข้าประเทศ50 % ขาออก 50 %

จากการพูดคุยกับประธานสมาคมปฏิบัติการสายการบินนานาชาติประจำประเทศไทย AOC :Airlines Operation Committee ได้รับเสียงตอบรับได้ดี การจองตั๋วเครื่องบินช่วงตารางบินหน้าหนาวฤดูเดินทางท่องเที่ยวของต่างชาติ มียอดจองที่นั่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเริ่มตั้งแต่ 3 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป เป็นสัญญาณดีถึงการท่องเที่ยวของประเทศจะเริ่มขึ้นอย่างแน่นอน

ขณะนี้ ทอท. ได้ปฏิบัติตามมติคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชนป ยังไม่มีแผนจะเพิ่มค่าธรรมเนียมในสนามบินสุวรรณภูมิที่จะจัดเก็บจากผู้ประกอบการ ยังคงตรึงไว้เพื่อพันธมิตรทางธุรกิจฟื้นตัวมีความแข็งแรงเพียงพอ  

สัญญาณที่ 2 “หน่วยงานหลักทั้งหมด” ได้ปรับโฉมบริการใหม่ โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ด่านศุลกากร ให้เพียงพอกับปริมาณผู้โดยสารที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

สัญญาณที่ 3 “บรรยากาศของผู้ใช้บริการจับจ่ายใช้เงิน” ทั้งในร้านค้า การเลือซื้อสินค้า รับประทานในร้านอาหารและเครื่องดื่ม คึกคักมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป็นภาพที่ทุกฝ่ายต้องการเห็นมานานแล้ว

สัญญาณที่ 4 บริการเช็คอิน เคาน์เตอร์ สายการบินทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริเวณชั้น 4 ของผู้โดยสารขาออกเปิดใช้บริการครบแล้ว 100 % แตกต่างจากเดิมเปิดทีละครึ่งเท่านั้น ประเด็นที่อาจจะกังวลกันอยู่บ้างคือเรื่อง“บุคลากรเคาน์เตอร์” หลายสายการบินจะต้องปรับกลยุทธ์เพิ่มจำนวนคนอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะกรกฎาคม 2565 ได้จัดประชุมกันเรียบร้อยเพื่อรับมือกับผู้โดยสารเดินทางวันหยุดที่มีจำนวนมากเป็นพิเศษ

ผอ.กิตติพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้ ทอท.ได้ติดตั้งอุปกรณ์บริการอัตโนมัติภายในสนามบินสุวรรณภูมิ โดยได้ติดตั้งตู้คีออสต์ (Kiosk) เช็คอินตั๋วเครื่องบินด้วยตนเองแบบอัตโนมัติ เพียงพอในช่วงอุตสาหกรรมการบินกำลังฟื้นตัวมีอยู่กว่า80 เครื่อง เป็นบริการด้วยตนเองจัดตั้งไว้ตรงกลางอาคารผู้โดยสาร เพียงแค่ผู้โดยสารนำพาสปอร์ตไปแกนบาร์โค้ดที่ตู้ดังกล่าว ข้อมูลทั้งหมดก็จะบันทึกแล้วพิมพ์ “บัตรโดยสารขึ้นเครื่องบิน-Broading Pass” ทั้งเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ ออกมาโดยอัตโนมัติได้

ช่วงแรกๆ ในการใช้คีออสต์เช็คอิน ทางสุวรรณภูมิจะจัดเจ้าหน้าที่ไว้คอยให้คำแนะนำ จากนั้นมั่นใจผู้โดยสารจะใช้เองได้เหมือนกับการใช้บริการระบบแบงกิ้งปัจจุบัน รวมทั้งยังสามารถโหลดกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติได้ด้วย

ขณะนี้ผู้โดยสารเริ่มนิยมใช้เครื่องคีออสต์เช็คอินพาสปอร์ตเดินทาง กระเป๋าสัมภาระ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตอบโจทย์เรื่องมาตรการความปลอดภัยด้านการรักษาระยะห่าง Social Distancing ได้เป็นอย่างดีด้วย

สัญญาณที่ 5 บริการขนสัมภาระกระเป๋า ด้านในอาคารติดทางขึ้นเครื่องบิน (Airside) ตรงลานบินได้กำชับเรื่องเจ้าหน้าที่ขนถ่ายสัมภาระกระเป๋าผู้โดยสารขึ้นลงเครื่องแต่ละเที่ยวบิน หรือ GHS-Ground Handling Service มีผู้ให้บริการอยู่ 2 ราย ได้แก่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท BFS -Bangkok Flight Services ได้เชิญมาพูดคุยกันเพื่อป้องกันเที่ยวบินล่าช้าแล้วห้ามทำให้กระเป๋าผู้โดยสารตกค้างโดยเด็ดขาด

นายกิตติพงศ์ ยืนยันว่าปัจจุบัน “ร้านอาหารและเครื่องดื่ม” ในสนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 3 บริเวณด้านนอกแอร์ไซด์กลับมาเปิดบริการแล้วเกือบ 90 % ขณะนี้มีบางส่วนกำลังตกแต่งใหม่ และก่อนตารางบินฤดูหนาวเดือนตุลาคม 2565 นี้จะสามารถกลับมาให้บริการได้ครบ 100 %

ส่วน“พื้นที่แอร์ไซต์” บริเวณด้านในหลังตรวจหนังสือเดินทางเข้าไปข้างในแล้ว บรรดาร้านค้าต่าง ๆ ทั้งร้านอาหารร้านช้อปปิ้ง เปิดครบแล้ว 100 % โดยมีแบรนด์ระดับโลกสนใจมาสร้างสีสันใหม่ ๆ จำนวนมาก ซึ่งทางผู้ได้รับสัมปทานได้เชิญชวนพันธมิตรเข้ามาสร้างภาพลักษณ์ใหม่ดีขึ้นหลังไทยเปิดประเทศต้อนรับนักเดินทางทั่วโลก

ไฮไลต์จะมีบริการใหม่คือพื้นที่เลาจน์ผู้โดยสารสุวรรณภูมิ แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทแรก-เลาจน์สายการบินนานาชาติ ทยอยเปิดตามปริมาณผู้โดยสารของตนเอง ประเภทที่สอง-เลาจน์บริการร่วมหรือ Common Use Louge ได้นำพื้นที่ของบางสายการบินคืนพื้นที่ให้ ทอท. เชิญชวนมีเอกชนรายใหม่ประมูลได้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้กำลังปรับและตกแต่งติดตั้งอุปกรณ์พร้อมจะเปิดบริการได้ประมาณเดือนสิงหาคม 2565 นักเดินทางทั่วไปสามารถจ่ายค่าบริการแล้วเข้าไปนั่งได้ ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันที่จะได้เห็นสุวรรณภูมิพัฒนาบริการในทางที่ดีขึ้น ขนาดพื้นที่รองรับได้ครั้งละร้อยคน เพราะมีกระจายอยู่ทั้งหมด 4 จุดด้วยกัน

ผอ.กิตติพงศ์ ย้ำว่า เดือนกรกฎาคม นี้ มีวันหยุดต่อเนื่องมากเป็นพิเศษ จึงขอให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางมาสนามบินสุวรรณภูมิ ปฏิบัติดังนี้ 1.เตรียมเอกสารที่ต้องใช้ตามข้อกำหนดของประเทศปลายทางที่ผู้โดยสารจะเดินทางไปประกอบด้วยอะไรบ้าง เมื่อมาถึงสนามบินพนักงานเคาน์เตอร์เช็คอินจะได้บริการอย่างสะดวกรวดเร็ว 2.เผื่อเวลาการเดินทางล่วงหน้าโดยเฉพาะวันหยุดยาวเพราะคิวเช็คอินจะค่อนข้างแน่นพอสมควร 3.ขอให้สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่เข้ามาอยู่ในสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากมีผู้โดยสารอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก

อีกทั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้ กระทรวงคมนาคมมีโครงการ Moving All Together เนื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิเป็นประตูด่านแรกการเดินทางเข้า-ออก ประเทศไทย ในฐานะผู้บริหารสนามบินสุวรรณภูมิมีนโยบายให้พนักงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องปฏิบัติหน้าที่ให้บริการเป็นอย่างดีที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความปลอดภัยให้ผู้โดยสารที่มาใช้พื้นที่สนามบิน และจะต้องเกิดความประทับใจกับทุกคน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารทั่วโลกนำเงินเข้ามาใช้จ่ายในไทยฟื้นเศรษฐกิจกลับมาโดยเร็วที่สุด

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen