“สุพัฒนพงษ์”ชง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้า ศบศ. วันที่ 2 ก.ย.

.“พิพัฒน์” ขอเคลียร์ โครงการ “ภูเก็ตโมเดล”

.ใช้ชื่อเหมือนกันจนสับสน

.อัดกลับแพทย์ที่ต่อต้านนักท่องเที่ยวต่างชาติ

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ( ศบศ.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน วันที่ 2 ก.ย.นี้ ที่ประชุมจะหารือถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายหลังจากเกิดการระบาดของไวรัสโควิด19เพื่อใช้ดูแลเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ เบื้องต้นมาตรการทั้งหมดจะเน้นมาตรการระยะสั้นเป็นหลัก และมีการรับทราบรายงานเรื่องของการดูแลการจ้างงาน ที่กระทรวงแรงงานจะมารายงานให้ที่ประชุมรับทราบด้วย


“รายละเอียดของมาตรการจะต้องรอผลการประชุมวันที่ 2 ก.ย.นี้ก่อนว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำในช่วงนี้”


นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) จะเสนอวาระที่เกี่ยวข้องกับการนำนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาในไทย ซึ่งต่อเนื่องจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรนอกสถานที่ที่จ.ระยอง เห็นชอบนำนักท่องเที่ยวต่างชาติ 200 คน เข้ามาพำนักระยะยาว (ลองสเตย์) ภายใต้โครงการ “ภูเก็ต โมเดล” ซึ่งอาจจะเกิดความสับสนเนื่องจากบังเอิญไปใช้คำว่า “ภูเก็ต โมเดล” เหมือนกับโครงการที่กระทรวงท่องเที่ยวฯเล็งเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาภายใต้โครงการ Safe & Sealed Area for Tourism โดยให้เข้ามาเที่ยวในไทยโดยจำกัดพื้นที่และมีการตรวจสุขภาพตามเงื่อนไขของกระทรวงสาธารณสุข

พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา


อย่างไรก็ตาม ในการประชุม ศบศ.จะเสนอให้ทำโครงการนักท่องเที่ยวต่างชาติ 200 คน เข้ามาพำนักระยะยาว (ลองสเตย์) ให้เสร็จสิ้นก่อนพร้อมรอประเมินการตอบรับของคนไทยอีกครั้ง โดยเฉพาะคนในพื้นที่ โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะมาจากประเทศอออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ จะมีการตรวจโควิด-19 มาจากประเทศต้นทาง และเมื่อถึงสนามบินในไทยจะถูกตรวจอีกครั้ง จากนั้นให้เข้าพักที่โรงแรม กำหนดให้อยู่เฉพาะภายในห้องพักเท่านั้นเป็นเวลา 14 วัน และระหว่างนี้จะต้องตรวจโควิดอีก 2 รอบ เมื่อครบ 14 วันแล้วให้ออกจากห้องพักได้ และสามารถเดินทางในจังหวัดภูเก็ตได้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขเดียวกับคนไทยที่กลับมาจากต่างประเทศ แต่หากต้องการออกนอกจ.ภูเก็ต ต้องอยู่อีก 7 วันให้ครบ 21 วันก่อน โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้ทำวีซ่าเพื่อขออยู่ในไทย 90 วันและขอเพิ่มอีก 180 วัน รวมเป็น 270 วัน โดยจะเข้ามาภายในเดือนต.ค.นี้


“สรุปแล้วคือ รอให้กลุ่ม 200 คนนี้จบก่อนแล้วค่อยประเมินไปเริ่มโครงการอื่น เช่น ให้ออกจากห้องพักได้แต่จำกัดพื้นที่ในบริเวณโรงแรม 4+7 วัน ผมคิดว่าจำเป็นต้องทดลองให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา เรื่องนี้เป็นเรื่องของจิตใจของคนไทยว่าจะยอมรับได้ไหม แต่ต้องย้ำว่ามีมาตรการดูแลอย่างเข้มงวด หากชุดนี้เข้ามาไม่มีผู้ติดเชื้อก็จะรู้สึกเบาใจขึ้น การเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามีความจำเป็นต้องเศรษฐกิจของประเทศ เพราะนำเงินเข้าประเทศไทย จึงไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีแพทย์ออกมาต่อต้านไม่ให้นำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา แต่กลับบอกว่าให้นำแรงงานต้างด้าวเข้ามาได้ ซึ่งผมว่าน่ากังวลยิ่งกว่าเพราะหากมีแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามา จะไม่ได้ตรวจเลยว่าติดดควิดมาหรือไม่ ยิ่งในตอนนี้กำลังมีการระบาดในประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็นพม่า หรือมาเลเซีย”