“สุทิน”คุย”เพื่อไทย-ก้าวไกล”แบ่งกันทำหน้าที่แยกกันยื่นร่างกฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญ

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.พรรคการเมืองว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลได้พูดคุยกันแล้วว่าจะให้เป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรคการเมืองได้เสนอร่างกฎหมายตามจุดยืนของตนเอง ซึ่งเราก็เคารพกัน เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เห็นตรงกันทั้งหมดตั้งแต่ต้น เช่นเรื่องวิธีการคำนวนคะแนน โดยพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลก็พร้อมที่จะยื่นเสนอร่างกฎหมาย ซึ่งในส่วนของพรรคเพื่อไทยมี 2 ฉบับ โดยตามขั้นตอนเรามีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนร่วมด้วยตลอด และในวันนี้จะเป็นการประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทย คิดว่าคงมีการลงนามเพื่อยื่นญัตติ คาดว่าใช้เวลาไม่นาน แต่ในส่วนของพรรคก้าวไกลตนไม่แน่ใจว่าจะเสนอกี่ฉบับ ขณะที่พรรคฝ่ายค้านอื่นคิดว่าคงไม่ยื่น ทั้งนี้เสียงส่วนใหญ่ว่าอย่างไรก็ต้องว่ากันตามนั้น

นอกจากนั้นยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองช่วงนี้ จะทำให้การพิจารณาร่างกฎหมายลูกทั้งสองฉบับสะดุดลง นายสุทิน กล่าวว่า มันก็เป็นไปได้ตลอด แม้ในใจรัฐบาลอาจคิดว่าอยากลากยาว แต่มันก็ทำไม่ได้อย่างที่คิด หากศรัทธาของประชาชนเสื่อม ปัญหาเศรษฐกิจแก้ไขไม่ได้ และในพรรครัฐบาลยังคุยกันไม่รู้เรื่อง แบบนี้ก็ไปได้ก่อนเวลาอันควร ซึ่งเห็นได้ทุกสัปดาห์ในการประชุมสภาฯที่องค์ประชุมไม่ครบ สะท้อนว่าไม่เป็นเอกภาพที่หัวคะมำได้ตลอด ที่นายชวนเตือนไว้ก็มีเหตุผล

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 นายสุทิน ตอบว่า ได้ข้อสรุปแล้วว่าเราจะยื่นหลังปีใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยเมื่อเปิดการประชุมสภาฯช่วงหลังปีใหม่ก็คงจะเป็นครึ่งเทอมพอดี เราก็ให้รัฐบาลเขาทำงาน และคิดว่าปัญหาที่น่าเป็นห่วงที่สุดอาจจะไปเกิดช่วงนั้น เพื่อเราจะได้มีคำแนะนำ ให้คำปรึกษาและท้วงติงรัฐบาลในช่วงนั้นที่มีหลายปัญหา เช่นเรื่องเศรษฐกิจที่เราคิดว่าหลังจากเปิดประเทศมาหลังปีใหม่ก็น่าจะประเมินได้แล้วว่าเป็นไปอย่างที่หวังหรือไม่ หรือเปิดประเทศแล้วสูญเปล่า และเราเป็นห่วงว่าโควิด-19 จะกลับมาระบาดอีกครั้งหลังช่วงปีใหม่ รวมถึงเรื่องการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่มีการคุกคามกันหนักขึ้น เราคิดว่าช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่ร้อนระอุ รวมถึงเรื่องต่างประเทศที่กำลังเดินอยู่ตอนนี้ ที่อาจจะไปแดงไปบวมกันตอนนั้นก็ได้.