สุดทน!พิษเทรดวอร์-บาทแข็ง สรท.ลดเป้าส่งออก

  • เอกชนทำใจส่งออกปีนี้ติดลบ1%
  • จี้รัฐเร่งแก้ปัญหาค่าเงินโดยด่วน
  • วอนตั้งรัฐบาลใหม่อุ้มส่งออ

สรท.หั่นเป้าส่งออกรอบที่ 4 รอบ เหลือลบ 1% เหตุซมพิษสงครามการค้า-ค่าบาทแข็ง จี้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาค่าบาทแข็ง และเร่งตั้งรัฐบาลใหม่ อุ้มส่งออก

น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท.ได้ปรับลดเป้าหมายมูลค่าการส่งออกไทยในปี 62 เป็นครั้งที่ 4 ในรอบปีนี้ โดยเหลือติดลบ 1% ถึง 0% เมื่อเทียบกับปี 61 เพราะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน รวมถึงความผันผวนของค่าเงินบาท ที่มีแนวโน้มแข็งค่าอย่างรวดเร็ว,ราคาน้ำมันที่มีความผันผวนจากการที่สหรัฐฯมีมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน และปัญหาโครงสร้างการผลิตสินค้า โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่ล้าสมัยในอุตสาหกรรมรถยนต์ ไม่สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน ทำให้นักลงทุนต่างชาติย้ายฐานการผลิตไปประเทศที่มีความพร้อมในด้านปัจจัยโครงสร้างมากกว่า เช่น อินโดนีเซีย เวียดนาม เป็นต้น

“สรท.ได้ปรับลดเป้าหมายมูลค่าส่งออกปีนี้ใหม่เป็นครั้งที่ 4 จากเดิมตั้งเป้าขยายตัว 5% แล้วลดลงเหลือโต 3% และเหลือโต 1% ล่าสุดได้ปรับลดเหลือ ติดลบ 1 ถึง 0% โดยอยู่บนสมมติฐานค่าเงินบาททั้งปีเฉลี่ย 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ หรือบวกลบ 0.50 บาทต่อเหรียญฯ แต่ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 31.37 – 30.78 บาทต่อเหรียญฯ”

น.ส.กัณญภัค กล่าวว่า สรท.ต้องการเสนอให้ภาครัฐเร่งแก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็ว เช่น กำกับดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ ไม่ให้แข็งค่าสูงกว่าคู่ค้าและคู่แข่งที่สำคัญ ด้วยการใช้มาตรการปกป้องค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่ว่าจะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย, มาตรการป้องปรามการเก็งกำไรค่าเงินบาทที่ผิดปกติ และสนับสนุนให้นักลงทุนไทยออกไปลงทุนในต่างประเทศ

พร้อมกันนี้ ขอให้เร่งจัดตั้งรัฐบาล ที่มีเสถียรภาพทางการเมืองโดยเร็ว และขอให้รัฐบาลใหม่เร่งสนับสนุนภาคการค้าระหว่างประเทศ ในด้านต่างๆ โดยเร็ว เช่น สนับสนุนการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับประเทศต่างๆ ให้ได้มากที่สุด เช่น ไทย-อียู, ไทย-ปากีสถาน, ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) และเข้าเป็นสมาชิกความตกลงครอบคลุมและก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี)