“สิระ”ท้า “ไฮโซลูกนัท”โชว์ใบรับรองแพทย์ ลั่น!ตาบอดจริงพร้อมจ่าย 1 ล้านบาท

วันที่ 23 ส.ค.2564 ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ตั้งข้อสงสัยเกตอาการบาดเจ็บของนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัทหลังออกมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มทะลุฟ้าที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวานนี้ (22 ส.ค.64) เพราะหากตาบอดจริงการรักษาน่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 เดือน อีกทั้งที่ผ่านมายังไม่เคยมีแพทย์ออกมาให้ข้อมูล หรือมีใบรับรองแพทย์มายืนยัน จึงไม่เชื่อว่าไฮโซลูกนัทตายบอดจริงตามที่ให้ข่าว และมองว่าการกระทำของไฮโซลูกนัท เป็นการยุยงปลุกปั่นเพื่อหวังผลทางการเมือง และเชื่อว่าไฮโซลูกนัทอาจจะลงสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในนามพรรคก้าวไกลในอนาคต

“ผมขอท้าให้ไฮโซลูกนัท นำใบรับรองแพทย์มาเปิดเผยเพื่อเป็นการยืนยันว่าตาบอดจริง ซึ่งหากตาบอดจริงผมจะมอบเงินให้ไฮโซลูกนัท 1 ล้านบาท แต่หากตาไม่บอดจริงจะขอสาบแช่งขอให้ตาบอดทั้งสองข้าง ถ้า7 วันแสดงไม่ได้ขอให้สังคมประนาม ผมมีคลิปที่สิ่งแปลกปลอมลอยลงมาไม่ได้โดนเบ้าตา ไม่เชื่อตาบอด แพทย์ไม่เคยแถลง ไม่มีใบรับรองแพทย์ อย่าเอาเรื่องเลือดเข้าตาและบอกตาบอดหวังผลการเมือง ปลุกปันให้ ประชาชนออกมาชุมนุม ขอให้หยุด”นายสิระ กล่าว

นายสิระ ยังกล่าวถึงป้ายยุติเสียงปืนและแก๊สน้ำตาที่ติดบริเวณแฟลตดินแดง และอ้างว่าเป็นของชาวดินแดงว่า ชัดเจนแล้วว่า เป็นคนของอดีตผู้สมัครพรรคก้าวไกล ชาวดินแดงบอกไม่ได้ขออนุญาตติด จึงเป็นการตีกินทางการเมืองชัดเจน จึงขอร้องว่าอย่าหาทำ เพราะทำให้เสื่อมเสียถึงคนดินแดงด้วยขณะที่แน่นอนว่าพื้นที่ดินแดงมีการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง มีอดีตผู้สมัครของพรรคการเมืองลงพื้นที่และทำให้รู้สึกว่าอันตราย ซึ่งสิ่งที่ชาวดินแดงเรียกร้อง คือให้ไม่ให้เป็นจุดปะทะ เลื่อนการใช้พื้นที่ออกไป กรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ที่ตนเป็นประธานก็รับฟังและพร้อมให้การช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามเป็นห่วงผู้ที่เอาการเมืองเข้าไปหาผลประโยชน์ ซึ่งประชาชนรู้ ว่าใครเข้าไปปลุกปั่น สร้างสถานการณ์ และมีข่าวว่า พรรคการเมืองจ้างให้เด็กและเยาวชนแถบนั้นปะทะกับเจ้าหน้าที่ด้วยซ้ำ

“มองว่าทางออกของการชุมนุม ต้องจบด้วยโต๊ะเจรจา เหมือนสงคราม และอยากเห็นคนที่เดือดร้อน เรียกร้องให้ถูกวิธี ผู้ใหญ่ที่มีอำนาจหน้าที่ก็รับฟัง การใช้ความรุนแรงไม่มีผู้ใหญ่คนไหนอยากรับฟัง แนวสนับสนุนก็จะน้อยลงไม่สำเร็จ อย่าใช้ความรุนแรง จะได้แนวร่วม คนมีอำนาจจะรับฟังแก้ไขและพิจารณา ซึ่งกรรมาธิการฯพร้อมที่จะเป็นเวทีกลางให้ เพราะสภาฯเป็นตัวแทนของประชาชน มีอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรรมนูญ สามารถออกกฎหมายตามที่ผู้ชุมนุมต้องการ ไม่ได้แก้บนถนน ต้องมาแก้ที่สภา ผ่าน ส.ส.”