สาวกกล้องตระกูล EOS R ใจสั่น! แคนนอน เปิดตัวเลนส์ RF 2 รุ่นเด็ดรับต้นปี เอาใจสายถ่ายพอร์เทรต จนถึงซูมขั้นเทพ

  • เอาใจสายถ่ายพอร์เทรตด้วยเลนส์ RF85mm f/1.2L USM DS สร้างโบเก้ไล่สีที่แสนนุ่มนวล
  • เลนส์ซูมเทเล RF70-200mm f/2.8L IS USM เบากะทัดรัดยิ่งกว่าเลนส์ EF รุ่นเทียบเท่า

แคนนอน เปิดตัวเลนส์ RF 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ RF85mm f/1.2L USM DS เลนส์ถ่ายภาพพอร์เทรตขั้นเทพ และ RF70-200mm f/2.8L IS USM เลนส์ซูมอันทรงพลัง ให้สาวกกล้องแคนนอนตระกูล EOS R ได้พกไปใช้ถ่ายภาพในทุกโอกาสที่เหมาะสม โดย RF85mm f/1.2L USM DS เลนส์ L รุ่นล่าสุด มาพร้อมคุณสมบัติรูรับแสงขนาดกว้าง เคลือบเลนส์ด้วยเทคโนโลยี Defocus Smoothing (DS) ให้ภาพถ่ายละมุนสวยงาม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพพอร์ตเทรต และสร้างสรรค์โบเก้ที่นุ่มนวล ในขณะที่ RF70-200mm f/2.8L IS USM เลนส์ซูมรุ่นที่สาม และเป็นรุ่นล่าสุดในตระกูลเลนส์ซูม trinity ของแคนนอน มาพร้อมเมาท์ RF รูรับแสงกว้างที่ f/2.8 พร้อมด้วยเทคโนโลยีระบบป้องกันภาพสั่นไหว (IS) และด้วยช่วงซูมเทเลโฟโต้ขนาด 70 – 200 มม. ช่วยให้ถ่ายภาพได้อย่างครอบคลุมวัตถุที่หลากหลาย ตั้งแต่ภาพถ่ายบุคคล ไปจนถึงภาพถ่ายธรรมชาติ สัตว์ป่า และกีฬา โดยเลนส์ RF85mm f/1.2L USM DS และ RF70-200mm f/2.8L IS USM มาพร้อมคุณสมบัติอันน่าทึ่งที่สาวกกล้องตระกูล EOS R รอติดตาม 

เลนส์ RF85mm f/1.2L USM DS จัดเต็มคุณภาพการถ่ายพอร์เทรตสร้างสรรค์โบเก้ที่ละมุนอย่างยอดเยี่ยม

  • เทคโนโลยีการเคลือบด้วยไอน้ำ (Defocus Smoothing) สร้างสรรค์โบเก้ได้อย่างนุ่มนวล

หนึ่งในความโดดเด่นของเลนส์ RF85mm f/1.2L USM DS คือเทคโนโลยีการเคลือบด้วยไอน้ำ หรือ Defocus Smoothing (DS) อันเป็นเอกลักษณ์ของแคนนอน การเคลือบนี้ช่วยลดปริมาณแสงที่ส่องผ่านเข้ามายังบริเวณขอบเลนส์ ทำให้ได้โบเก้ที่มีขอบนุ่มนวลตั้งแต่กึ่งกลางเฟรมภาพไปจนถึงขอบ นอกจากนี้ การเคลือบ DS บนพื้นผิวทั้งสองด้าน ช่วยให้เลนส์มีประสิทธิภาพด้านออปติคอลที่ยอดเยี่ยม 

เลนส์ RF85mm f/1.2L USM DS มีรูรับแสงขนาดกว้าง ความยาวโฟกัส 85 มม. เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพพอร์เทรต ที่ดูเป็นธรรมชาติด้วยเอฟเฟกต์โบเก้อันสวยงามบนพื้นหลัง เลนส์ RF85mm f/1.2L USM DS ได้รับการออกแบบระบบออปติคอล ด้วยโครงสร้าง 13 ชิ้นเลนส์ใน 9 กลุ่ม รวมถึงชิ้นเลนส์ Blue Spectrum Refractive Optics (BR) เลนส์ UD 1 ชิ้น และชิ้นเลนส์แก้ความคลาดทรงกลมอีก 1 ชิ้น ซึ่งชิ้นเลนส์ BR และ UD จะช่วยควบคุมความคลาดสี และให้ประสิทธิภาพการแสดงผลที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ เลนส์ยังมีคุณสมบัติการเคลือบแบบ Air Sphere Coating (ASC) ช่วยลดการเกิดแสงแฟลร์และแสงหลอก ที่เกิดจากการสะท้อน รวมถึงเพิ่มความคมชัดเมื่อถ่ายภาพย้อนแสง

  • รูรับแสงขนาดกว้าง ให้คุณภาพของภาพที่เหนือระดับ

ด้วยรูรับแสงที่มีขนาด f/1.2 และม่านรูรับแสง 9 กลีบ ของเลนส์ RF85mm f/1.2L USM DS จึงให้ภาพถ่ายที่เบลอพื้นหลังอย่างนุ่มนวลสวยงาม รูรับแสงที่กว้างยังช่วยให้สามารถจับโฟกัสภาพได้คมชัดในสภาพแสงน้อยด้วยความเร็วชัตเตอร์ที่สูงขึ้น เลนส์ RF85mm f/1.2L USM DS  มีระยะโฟกัสใกล้สุดที่ 0.85 ม. และกำลังขยายสูงสุด 0.12 เท่า เหมาะสำหรับการถ่ายภาพทั้งพอร์เทรตแบบโคลสอัพไปจนถึงการถ่ายวัตถุขนาดเล็ก

  • การออกแบบอันชาญฉลาด มอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่ไม่ซ้ำใคร

เลนส์ RF85mm f/1.2L USM DS รุ่นใหม่ มาพร้อมวงแหวนควบคุม อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเลนส์ RF ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าควบคุมรูรับแสง ความเร็วชัตเตอร์ ความไวแสง (ISO) และการชดเชยแสงได้อย่างสะดวก โดยเมื่อใช้งานวงแหวนควบคุมการทำงานไปพร้อมกับปุ่ม Main dial และปุ่มหมุนควบคุมด่วน Quick control บนกล้อง EOS R ผู้ใช้จะสามารถลดความซับซ้อนในการควบคุมการปรับค่าของรูรับแสง ความเร็วชัตเตอร์ และ ความไวแสง ทั้ง 3 อย่างนี้ ทำให้การทำงานง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถใช้วงแหวนควบคุมเพื่อปรับการชดเชยแสงได้ในระหว่างถ่ายภาพพอร์เทรต ในกรณีเกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพแสงอย่างรวดเร็ว ผู้ใช้สามารถใช้มือข้างเดียวหมุนปุ่มวงแหวนควบคุม และปรับการชดเชยแสง ในขณะที่ยังใช้อีกมือกดชัตเตอร์ได้ในเวลาเดียวกัน 

ในด้านโครงสร้างของเลนส์ RF85mm f / 1.2L USM DS ถูกออกแบบมาให้มีตัวเลนส์ที่ทนทาน ตามแบบฉบับของเลนส์ L สามารถป้องกันฝุ่นและละอองน้ำ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพกพาไปถ่ายภาพกลางแจ้ง 

เลนส์ RF70-200mm f/2.8L IS USM สุดยอดเลนส์ซูมอันทรงพลังเพิ่มความคล่องตัวให้กับช่างภาพด้วยขนาดกะทัดรัดยิ่งขึ้น

  • โครงสร้างเลนส์โฉมใหม่ ลดความยาวและน้ำหนักเพื่อความคล่องตัวของช่างภาพ

เลนส์ RF70-200mm f/2.8L IS USM ช่วยให้การถ่ายภาพในระยะเวลานานสะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยบอดี้เลนส์ที่สั้นลง 27% และเบาลง 28% เมื่อเทียบกับเลนส์เมาท์ EF รุ่นก่อนหน้า EF70-200mm f/2.8L IS III USM ซึ่งเมื่อประกอบเลนส์ตัวใหม่นี้เข้ากับกล้อง จะมีน้ำหนักเบาลงถึง 30% เมื่อเทียบกับเลนส์ EF และชุดกล้อง DSLR รุ่นก่อน นอกจากนี้ การออกแบบที่มีดีไซน์ให้กระบอกเลนส์ยืดออกภายนอก ประกอบกับเส้นผ่านศูนย์กลางเมาท์ขนาดใหญ่ ระยะโฟกัสใกล้ และใช้ชิ้นเลนส์ aspherical ที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้สามารถลดความยาวโดยรวมของเลนส์ได้มากเมื่อหดกระบอกเลนส์เข้าจนสุด จะเหลือความยาวประมาณ 170.2 มม. เท่านั้นแม้ปิดฝาครอบเลนส์แล้ว ทำให้ RF70-200mm f/2.8L IS USM สะดวกต่อการจัดเก็บในกระเป๋ากล้อง อีกทั้งพกพาร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ง่ายขึ้น 

  • ยกระดับระบบออปติคอล ด้วยระบบโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบลอยตัว

ด้วยเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ และระยะโฟกัสด้านหลังสั้น ของระบบกล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรม EOS R แบบใหม่ สร้างดีไซน์ที่แตกต่าง เมื่อเทียบกับเลนส์ EF รุ่นก่อน แต่ยังคงรักษาคุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยม ในขณะที่ระบบออปติคอลของเลนส์ RF70-200mm f/2.8L IS USM ถูกออกแบบขึ้นมาใหม่ ประกอบด้วยโครงสร้าง 17 ชิ้นเลนส์ใน 13 กลุ่ม พร้อมเลนส์ aspherical 2 ชิ้น เลนส์ UD 4 ชิ้น และเลนส์ super UD 1 ชิ้น อีกทั้งเป็นครั้งแรกของแคนนอนที่นำระบบโฟกัสแบบชิ้นเลนส์ลอยตัวมาใช้ ทำให้สามารถขับเคลื่อนกลุ่มเลนส์สองกลุ่มแบบแยกกัน คุณสมบัตินี้ช่วยให้เลนส์มีขนาดกะทัดรัดขึ้น และช่วยลดระยะโฟกัสใกล้สุดให้ใกล้เพียง 0.7 เมตร ด้วยเทคโนโลยีโฟกัสแบบชิ้นเลนส์ลอยตัวนี้ จะช่วยลดการสั่นไหวขณะบันทึกภาพเคลื่อนไหว

ยิ่งไปกว่านั้น เลนส์ RF70-200mm f/2.8L IS USM ได้เคลือบชิ้นเลนส์แบบพิเศษที่เรียกว่า Subwavelength Structure Coating (SWC) ซึ่งช่วยป้องกันแสงสะท้อนได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังช่วยลดแสงสะท้อนที่มาจากหน้าเลนส์ รวมถึงลดแสงแฟลร์และแสงหลอกได้ด้วย

  • ขับเคลื่อนด้วย Nano USM ให้ออโต้โฟกัสความเร็วสูงและราบรื่น ทั้งในภาพนิ่งและวีดีโอ

นับเป็นครั้งแรกที่เลนส์แคนนอนขับเคลื่อนโดยมอเตอร์อัลตร้าโซนิค ขนาดเล็กเท่านิ้วโป้ง จำนวน 2 ตัว หรือที่เรียกว่า Nano USM ซึ่งถูกใช้ในระบบโฟกัสแบบชิ้นเลนส์ลอยตัว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจับโฟกัสอัตโนมัติได้อย่างเงียบสนิท ประหยัดพลังงาน อีกทั้งทำงานได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ยังคงขนาดเลนส์ที่กะทัดรัดเอาไว้ เทคโนโลยีดังกล่าวช่วยให้ถ่ายภาพนิ่ง และวีดีโอได้อย่างแม่นยำ ด้วยออโต้โฟกัสความเร็วสูง เมื่อใช้งานร่วมกับระบบ Dual Pixel CMOS AF ในกล้องระบบ EOS R

นอกจากนี้ เลนส์ RF70-200mm f / 2.8L IS USM ยังมาพร้อมประสิทธิภาพของระบบป้องกันภาพสั่นไหว (IS) อันทรงพลังที่ 5 สต๊อป ตามมาตรฐานการผลิตของ CIPA พร้อมด้วยโหมดควบคุมการสั่นไหว 3 โหมด ประกอบด้วย โหมดถ่ายภาพนิ่ง โหมดถ่ายแบบแพนกล้อง และโหมดถ่ายวัตถุเคลื่อนไหวในลักษณะที่ไม่สามารถคาดเดาได้ 

  • โครงสร้างเลนส์ที่แข็งแรง ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่ทนทาน

เลนส์ RF70-200mm f/2.8L IS USM ออกแบบมาสำหรับช่างภาพมืออาชีพ มาพร้อมคุณสมบัติป้องกันความชื้นและฝุ่นที่อาจผ่านเข้ามาขณะยืดและหดกระบอกเลนส์ นอกจากนี้ เลนส์ RF70-200mm f/2.8L IS USM ยังเป็นเลนส์ RF ตัวแรกที่มาพร้อมแผ่นกันความร้อนสีขาว ซึ่งจะช่วยควบคุมอุณหภูมิขณะใช้งานในสภาพอากาศร้อน อีกทั้งเลนส์รุ่นนี้ยังมีเลนส์ฮูดสีขาว สีเดียวกับตัวเลนส์ พร้อมด้วยการออกแบบที่อำนวยความสะดวกให้การปรับฟิลเตอร์โพลาไรซ์ทำได้ง่าย ในขณะที่ใส่เลนส์ฮูด

อย่างไรก็ตาม แคนนอนได้พัฒนาอุปกรณ์ Tripod Mount ขนาดกะทัดรัด ที่สามารถถอดออกได้อย่างง่ายดาย เพื่อรองรับการถ่ายภาพทั้งแนวตั้งและแนวนอน

ทั้งนี้ แคนนอน Canon ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเลนส์ตระกูล RF อย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันมีเลนส์ตระกูล RF ทั้งหมด 10 รุ่น ได้แก่

  1. RF 35mm f/1.8 Macro IS STM
  2. RF 50mm f/1.2L USM
  3. RF 85mm f/1.2L USM 
  4. RF 85mm f/1.2L USM DS 
  5. RF 15-35mm f/2.8L IS Nano USM 
  6. RF 24-70mm f/2.8L IS Nano USM 
  7. RF 24-105mm f/4L IS USM
  8. RF 24-240mm f/4-6.3 IS Nano USM 
  9. RF 28-70mm f/2L USM
  10. 10.RF 70-200mm f/2.8L IS USM

สำหรับเลนส์ RF85mm f/1.2L USM DS และ RF70-200mm f/2.8L IS USM มีวางจำหน่ายแล้ว ณ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายแคนนอน ทั่วประเทศไทย ในราคา 109,300 บาท และ 90,200 บาท ตามลำดับ