“สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์” ไมซ์เดสทิเนชั่นแห่งใหม่ย่านพระราม 4

  • ตลาดศูนย์การประชุมเมืองไทยฮอตสร้างรายได้เข้าประเทศแสนล้าน
  • “โกลเด้นแลนด์” ผนึกเอ็น.ซี.ซี ผุด “สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์”
  • ตั้งเป้าไมซ์เดสทิเนชั่นแห่งใหม่บนถนนพระราม 4

นายวิทวัส คุตตะเทพ รองกรรมการผู้จัดการ สายโครงการเชิงพาณิชยกรรม บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือโกลเด้นแลนด์ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทเตรียมเปิดตัว “สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์”  ฮอลล์อเนกประสงค์มูลค่า 500 ล้านบาท ที่อยู่ในโครงการมิกซ์ยูส สามย่านมิตรทาวน์ โดยตั้งอยู่ที่ชั้น 5 ในโซนอาคารรีเทล 

“การพัฒนาสามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่บริษัทพัฒนาฮอลล์เพื่อการจัดงานแบบครบวงจร ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะขยายธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้ทุกรูปแบบ โดยฮอลล์แห่งนี้มีพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) รองรับผู้ใช้บริการได้ 3,000 คน โดยพร้อมเปิดให้บริการช่วงเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งขณะนี้ก็มียอดจองใช้บริการถึง ม.ค. 2563 แล้ว”

สำหรับสามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ บริษัทได้จับมือกับพันธมิตรบริษัท เอ็น.ซี.ซี แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้นำในอุตสาหกรรมไมซ์ มาเป็นที่ปรึกษาและบริหารพื้นที่ให้ ซึ่งการร่วมมือครั้งนี้จะเสริมความแกร่งให้โกลเด้นแลนด์ ทั้งระบบการบริหารฐานลูกค้า ระบบบริหารจัดการสื่อภายในศูนย์ และระบบบรหารจัดการอาคารต่างๆ โดยตั้งเป้าให้ฮอลล์แห่งนี้เป็นไมซ์เดสทิเนชั่นแห่งใหม่บนถนนพระราม 4 คาดจะสร้างรายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2562 รวมกับรายได้ในปี 2563 เป็นจำนวน 80 ล้านบาท

นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า จากประสบการณ์การบริหารศูนย์การประชุมมากว่า 28 ปี ก็เชื่อมั่นว่าจะนำประสบการณ์ที่สะสมมาบริหาร สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ได้เป็นอย่างดี เริ่มตั้งแต่การรวมออกแบบตัวฮอลล์ให้มีขนาดที่เป็นมาตรฐานรองรับการจัดงานได้หลายรูปแบบ

ทั้งนี้ เอ็น.ซี.ซี ตั้งเป้าผลักดันให้สามย่านมิตรทาวน์ฮออล์ ก้าวไปเป็นผู้นำตลาดด้านสถานที่จัดงาน เพื่อตอบโจทย์โครงการสามย่านมิตรทาวน์ ที่ตั้งเป้าการเป็นคลังอาหารและการเรียนรู้ อีกทั้งมองว่าในการจัดงานแสดงสินค้า นิทรรศการ และการประชุม สัมมนานั้น ไม่ได้เจาะจงเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงภาคอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ ทั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

โดยแบ่งสัดส่วนการจัดงานออกเป็น 5 กลุ่มคือ การจัดนิทรรศการและการแสดงสินค้า 25% กิจกรรมพิเศษ  20% การประชุมสัมมนา  25% งานประชุมสัมมนาและนิทรรศการ 15% และงานอื่นๆ 15% โดยตั้งเป้ายอดการใช้พื้นที่เฉลี่ยอยู่ที่ 55% ในไตรมาส 4 ของปี 2562

นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดไมซ์เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจัดประชุม สัมมนา นิทรรศการ และงานแสดงสินค้าที่รองรับผู้เข้าชมงานไม่เกิน 1,800 คน ซึ่งจากการเก็บข้อมูลพบว่าตลอดปี 2561 ที่ผ่านมา มีการจัดงานขนาด 900 – 2,000 ตร.ม. ในสถานที่จัดงานหลัก 5 แห่ง คือ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เซ็นทรัลเวิลด์ พารากอน ไบเทคบางนา และอิมแพ็คเมืองทองธานี พบว่าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีการจัดงานมากที่สุดถึง 79 งาน จากทั้งหมด 110 งาน

“จากตัวเลขของสำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ จะมีกลุ่มนักเดินทางกลุ่มไมซ์มาประเทศไทยมากกว่า 30 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้จะเป็นกลุ่มนักเดินทางต่างชาติที่เดินทางมาเพื่อประชุมสัมมนา หรือร่วมงานเจรจาธุรกิจถึง 25% ซึ่งจะสร้างรายได้ให้ไทยกว่า 100,000 ล้านบาท โดยหากเฉลี่ยคนกลุ่มนี้จะมียอดใช้จ่ายอยู่ที่ 20,000 บาทต่อคนต่อวัน ซึ่งก็เปิดตัวสามย่านมิตรทาวน์ฮออล์ ก็จะช่วยเติมเต็มความพร้อมด้านสถานที่ไว้รองรับการเติบโตตลาดไมซ์ได้เป็นอย่างดี รวมถึงหากภาครัฐให้การสนับสนุนอย่างจริงจังก็จะดันรายได้”

สำหรับอัตราการบริการในส่วนของตัวฮอลล์จะอยู่ที่ 200 บาทต่อตร.ม.ต่อวัน และหากเป็นการจัดประชุมสัมมนาหากคิดเป็นรายบุคคลก็อยู่ที่ 1,300 – 1,500 บาทต่อคนต่อวัน ซึ่งหากเทียบกับโรงแรมที่รับจัดงานในรูปแบบเดียวกันจะมีอัตราบริการอยู่ที่ 1,800 – 2,000 บาทต่อคนต่อวัน ทั้งนี้ในส่วนของลูกค้าที่ติดต่อจะมาใช้บริการตอนนี้เป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ 30% และอีก 70% จะเป็นลูกค้าเดิมของบริษัท เอ็น.ซี.ซี ที่ดีลไว้ตอนบริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

นายศักดิ์ชัย กล่าวว่าถึงประเด็นการพัฒนาปรับปรุงศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงรื้อถอนจากนั้นก็จะเริ่มก่อสร้าง คาดจะแล้วเสร็จพร้อมให้บริการช่วงต้นปี 2566 ซึ่งเป็นการพัฒนาในพื้นที่เดิม 53 ไร่ หรือ 280,000 ตร.ม. โดยในส่วนของพื้นที่ศูนย์การประชุมอยู่ที่ 70,000 ตร.ม. โดยมูลค่าการพัฒนาอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท