- กระทรวงสาธารณสุข ขับเคลื่อนภาคีเครือข่ายหน่วยงานระดับท้องถิ่น
- ร่วมกับพัฒนาระบบส่งเสริมสุขภาพ
- เพื่อดูแลผู้สูงอายุระยะยาว และรองรับสังคมสูงวัย
นายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนภาคีเครือข่ายระดับหน่วยงานท้องถิ่นกับการพัฒนาระบบส่งเสริมสุขภาพดูแลผู้สูงอายุระยะยาว รองรับสังคมสูงวัย ณ โรงแรมเอบีน่า เฮ้าส์ กรุงเทพมหานคร ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลในการยกระดับการดูแลด้านสุขภาพและสังคมสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงหรือพิการในชุมชนด้วยผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุ (Care Manager) ผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Caregiver) และอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านบริการสุขภาพลงอย่างยั่งยืน ส่งผลให้ประชาชนกลุ่มผู้สูงอายุได้รับการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกัน ควบคุมโรค รักษาพยาบาลและฟื้นฟูสุขภาพในชุมชนอย่างทั่วถึงเท่าเทียม เสริมสร้างความเสมอภาคเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ เพื่อคนไทยมีสุขภาวะที่ดี
โดยบูรณาการระบบส่งเสริมสุขภาพดูแลผู้สูงอายุระยะยาวร่วมกับภาคีเครือข่ายระดับหน่วยงานท้องถิ่น ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากท้องถิ่นเป็นกลไกสำคัญ ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการส่งเสริมสุขภาพดูแลผู้สูงอายุระยะยาวในระดับชุมชน ก่อให้เกิดความร่วมมือในการดูแลส่งเสริมสุขภาพประชาชนและอนามัยสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง สร้างการมีส่วนร่วมของครอบครัว ชุมชน และท้องถิ่น เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายคือ ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีอยู่ในสังคมอย่างมีศักดิ์ศรี เข้าถึงบริการอย่างถ้วนหน้าและเท่าเทียม สร้างสังคมแห่งความเอื้ออาทร และสมานฉันท์
ทางด้าน นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในปี 2564 คาดว่าประเทศไทย จะเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ หรือมากกว่าร้อยละ 20 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบทั้งทางด้านสุขภาพ เศรษฐกิจและสังคมโดยรวม การเตรียมการเพื่อรองรับสภาพปัญหาของผู้สูงอายุจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงด้านสุขภาพที่เรื้อรัง ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงตามไปด้วย ทั้งนี้ สำนักงานวิจัยเพื่อการพัฒนาหลักประกันสุขภาพไทย ได้คาดประมาณงบประมาณที่ต้องใช้ในการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการพึ่งพิงถึง โดยเฉลี่ยแล้วสูงถึงประมาณ 15 ล้านบาทต่อปี ในช่วงปี พ.ศ. 2558 – 2565 จึงต้องให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาพก่อนวัยสูงอายุและเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ เพื่อลดภาระดังกล่าว