สาธารณสุขเป็นห่วงชุมชนคลองเตยพบปัญหาคัดกรองล่าช้าทำให้อาการผู้ป่วยรุนแรงขึ้น

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ของระลอกเมษายน.นี้ พบผู้ป่วยมีอาการปอดอักเสบเพิ่มขึ้น จึงต้องปรับแนวทางการให้ยาฟาวิพิราเวียร์เร็วขึ้น ในผู้ป่วยสีเขียวที่ไม่มีอาการ แต่มีปัจจัยเสี่ยง หรือโรคร่วมทำให้อาการรุนแรงขึ้น เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง อ้วน น้ำหนักมากกว่า 90 กิโลกรัม อายุมากกว่า 60 ปี โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง รวมโรคปอดอื่นๆ โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด รวมโรคหัวใจแต่กำเนิด โรคหลอดเลือดสมอง ตับแข็ง ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ ซึ่งจะช่วยลดอาการปอดอักเสบได้ แต่การจะลดความรุนแรงของโรค ไม่ได้สำคัญอยู่ที่การให้ยาเร็วอย่างเดียว แต่เป็นการค้นหาคัดกรองผู้ป่วยให้เร็วมากยิ่งขึ้น

ขณะนี้พบปัญหาการคัดกรองผู้ป่วยในพื้นที่คลองเตย อาจล่าช้า ไม่รวดเร็ว ทำให้เริ่มพบผู้ป่วยในพื้นที่คลองเตย จากอาการสีเขียว พัฒนาเป็นสีเหลือง ซึ่งเพิ่งถูกส่งตัวมาจากศูนย์แรกรับ และส่งต่ออาคารนิมิบุตรประมาณ 7-8 คน จำนวนนี้เป็นผู้ป่วยสีเหลือง 1-2 คน และพบว่า จากเดิมในพื้นที่คลองเตยพบผู้ป่วยสีเหลืองแค่ ร้อยละ 4-5 ปัจจุบันเป็น ร้อยละ 10

นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ดังนั้น จึงได้มอบหมายให้ นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ หารือกับสำนักอนามัย และสำนักการแพทย์ กทม. เจ้าของพื้นที่ ให้เร่งแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ว่า ทำอย่างไรจะเร่งคัดกรอง และ นำตัวผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษา เข้าระบบให้เร็วที่สุด ก่อนที่ผู้ป่วยจะมีการอาการรุนแรงมากขึ้น

อย่างไรก็ตามในวันเดียวกันนี้ (9พ.ค.) เฟซบุ๊กเพจ “กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์” รายงานผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เชิงรุก ในชุมชนเขตคลองเตย นับถึงวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา สรุปผลการตรวจ SWAB จำนวน 16,131 ราย ผลไม่ติดเชื้อ (-) 8,870 ราย ผลติดเชื้อ (+) 477 ราย รอผลการตรวจ 6,784 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 256 ราย