- บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อเนื่อง
- เพื่อบังคับให้ปูตินยุติรุกรานยูเครน
- หวั่นบานปลายเป็นสงครามครั้งใหญ่ในยุโรป
สหรัฐอเมริกา อังกฤษ สหภาพยุโรป (อียู) และแคนาดา ออกมาระบุว่าจะเดินหน้าคว่ำบาตรประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย รวมถึงนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ภายใต้ความพยายามที่จะลงโทษต่อผู้ก่อสงครามในยูเครน
อียูได้ผ่านข้อมติอย่างเป็นเอกฉันท์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่ ที่แสดงให้เห็นว่าชาติตะวันตกกำลังเดินหน้าใช้มาตรการต่างๆ เพื่อบังคับให้ปูตินยุติการรุกรานประเทศเพื่อนบ้านอย่างยูเครน ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์บานปลายกลายเป็นสงครามครั้งใหญ่ในยุโรป
ขณะที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้แจ้งกับผู้นำกองกำลังสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ระหว่างการหารือกันทางโทรศัพท์ ว่าอังกฤษจะบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อปูตินและลาฟรอฟ ขณะที่อียูก็แจ้งว่าจะอายัดทรัพย์สินของปูตินเช่นกัน
เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า การคว่ำบาตรต่อรัสเซียของสหรัฐจะรวมถึงคำสั่งห้ามการเดินทาง มาตรการคว่ำบาตรต่างๆ ที่มีต่อรัสเซียมีเป้าหมายเพื่อส่งสารที่ชัดเจนถึงการคัดค้านอย่างแข็งขันต่อการกระทำของปูตินจากชาติตะวันตก
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ระบุว่า ยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการคว่ำบาตรต่อปูติน แต่ได้มีการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าวหลังจากหารือกับผู้นำยุโรปแล้ว โดยคาดว่ากระทรวงการคลังของสหรัฐจะเปิดเผยรายละเอียดของมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดตามมา
ด้านนายจัสติน ทรงโดน ผู้นำแคนาดา ก็ประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อปูตินและลาฟรอฟเช่นกัน
อย่างไรก็ดียังไม่ชัดเจนว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นในทางปฏิบัติต่อปูตินและลาฟรอฟจากมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวจะเป็นอย่างไร และทรัพย์สินของพวกเขาในประเทศเหล่านี้มีความสำคัญมากเพียงใด
นายโจเซฟ บอเรลล์ ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงและรองประธานคณะกรรมาธิการอียู กล่าวว่า สิ่งที่บอกได้คือหากคุณมีทรัพย์สินจำนวนมาก และทันทีทันใดคุณไม่สามารถที่จะครอบครองมันได้ นั่นจะทำให้คุณได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน
ด้านรัฐมนตรีอียูระบุด้วยว่า ยังคงมีความเป็นไปได้สำหรับการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมตามมา
