สหรัฐสั่งหยุดใช้วัคซีนจอห์นสันชั่วคราว หลังพบผู้หญิง 6 รายเกิดลิ่มเลือดอุดตัน อย.เร่งตรวจสอบสาเหตุต่อไป

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ทางการสหรัฐได้สั่งระงับใช้งานวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19   ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันเป็นการชั่วคราว หลังมีผลข้างเคียงในผู้ใช้งานพบ “ลิ่มเลือดอุดตัน” ถึง 6 ราย เป็นเพศหญิงมีอายุระหว่าง 18-48 ปี โดยมีอาการหลังรับการฉีดวัคซีนไปแล้ว 6-13 วัน 

ทั้งนี้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC)  และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้แถลงร่วมกันและให้คำแนะนำดังกล่าว โดยวัคซีนของจอห์นสันเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและแจกจ่ายวัคซีนไปกว่า 6.8 ล้านโดสในสหรัฐฯ 

“ทางCDC จะเรียกประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาเกี่ยวกับแนวทางการสร้างภูมิคุ้มกันโรค (ACIP) ในวันพุธเพื่อทบทวนกรณีเหล่านี้เพิ่มเติมและประเมินความสำคัญที่อาจเกิดขึ้น” แถลงการณ์ระบุว่า “FDA  กำลังตรวจสอบสาเหตุต่อไปจนกว่ากระบวนการนั้นจะเสร็จสมบูรณ์เราขอแนะนำให้หยุดใช้วัคซีนนี้ชั่วคราวโดยระมัดระวังสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญในส่วนหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าการดูแลสุขภาพ ชุมชนผู้ให้บริการตระหนักถึงโอกาสของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์เหล่านี้”

ก่อนหน้านี้ สถานีโทรทัศน์ซีบีเอส รายงานว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (J&J) กำลังเผชิญปัญหา จนรัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นรัฐที่สามประกาศปิดสถานที่การฉีดวัคซีนนี้เป็นการชั่วคราว หลังจากพบผู้ฉีดวัคซีนจำนวน 8 รายมีอาการไม่พึงประสงค์

ทั้งนี้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ที่รัฐนอร์ท แคโรไลนา พบว่าผู้ฉีดวัคซีนของบริษัทนี้ 18 คนมีอาการข้างเคียง ขณะที่ในรับโคโรราโดพบพลเมือง 11 รายมีอาการตอบสนองหลังฉีดตั้งแต่การวงเวียนศีรษะ คลื่นไส้และเป็นลม