สหประชาชาติหวั่นนานาชาติ “ทอดทิ้ง” แอฟริกา

.หลังพบเป็นแหล่งระบาดของไวรัสกลายพันธุ์ “โอไมครอน”

.จี้ทุกประเทศอย่าจำกัดเดินทางและตรวจหาเชื้อซ้ำกับนักเดินทาง

.ขณะที่อินเดียประกาศบริจาควัคซีนให้แอฟริกาตามรอยจีน

นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) กังวลประเทศในแอฟริกาใต้อาจถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว หลังนานาประเทศพร้อมใจกันออกมาตรการจำกัดการเดินทาง ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน

“ผมวิงวอนให้รัฐบาลทุกประเทศเปลี่ยนมาใช้มาตรการตรวจหาเชื้อซ้ำกับนักเดินทาง ร่วมกับการใช้มาตรการอื่นๆ ที่เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของการแพร่เชื้อ และกลับมาอนุญาตให้ปิดการเดินทางและการทำธุรกิจกับทวีปแอฟริกาใต้”

ก่อนหน้านี้ นายกูเตอร์เรส ได้ย้ำเตือนถึงอันตรายของความไม่เสมอภาคในการเข้าถึงวัคซีนทั่วโลกอยู่บ่อยครั้ง โดยระบุว่า ประเทศที่มีอัตราการสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดวัคซีนในระดับต่ำ “คือแหล่งเพาะไวรัสกลายพันธุ์ ประชาชนชาวแอฟริกาไม่สมควรถูกกล่าวโทษที่แอฟริกามีอัตราการฉีดวัคซีนในระดับต่ำ และพวกเขาไม่ควรถูกลงโทษ เพราะเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลสำคัญทางวิทยาศาสตร์และสุขภาพให้โลกได้รับรู้”

อย่างไรก็ตาม วานนี้ (29 พ.ย.) ประกาศพร้อมส่งมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่แอฟริกาด้วยความรวดเร็ว ฉับไว เพื่อช่วยต่อสู้กับการระบาดของโอไมครอน หลังจากจีนประกาศบริจาควัคซีนให้กับแอฟริกาไปแล้ว 1,000 ล้านโดส

ทั้งนี้ อินเดีย เปิดเผยว่า ได้จัดส่งวัคซีนที่ผลิตขึ้นภายในประเทศกว่า 25 ล้านโดสให้แก่ 41 ประเทศในแอฟริกา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการจัดส่งผ่านโครงการโคแวกซ์ (COVAX)  

กระทรวงต่างประเทศอินเดียระบุในแถลงการณ์ว่า “รัฐบาลอินเดียพร้อมสนับสนุนประเทศต่างๆ ในแอฟริกาเพื่อรับมือกับไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน รวมถึงการจัดหาวัคซีนที่ผลิตขึ้นในอินเดีย โดยอาจเป็นไปได้ทั้งการจัดส่งผ่านโครงการ COVAX หรือการส่งมอบในระดับทวิภาคี”

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า อินเดียและจีนต่างมีสายสัมพันธ์ชิดใกล้กับหลายประเทศในแอฟริกา แต่จีนอัดฉีดเม็ดเงินให้แอฟริกามากกว่าอินเดียมาก และวานนี้ได้ให้คำมั่นว่า จะทุ่มเม็ดเงินลงทุนอีก 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ