สวนกระแสเศรษฐกิจ… “ซีบีอาร์อี” เผยโครงการ Branded Residence ในกรุงเทพฯ ดีมานด์พุ่ง!

  • เผยพฤติกรรมลูกค้าระดับบน ปัจจุบันต้องการที่พักอาศัยพร้อมบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกในระดับเวิลด์คลาส
  • อยู่ในทำเลที่ตั้งที่ดี มีการออกแบบตัวโครงการที่โดดเด่น และมีคุณภาพ
  • ตอบโจทย์ลูกค้าสามารถนำห้องมาปล่อยเช่า และทำกำไรในระยะยาวได้
  • ช่วยเสริมให้โครงการประเภทนี้ เป็นที่ต้องการ เพราะเป็นอีกปัจจัยที่ลูกค้ากลุ่มนี้ให้ความสำคัญ

นางสาวอาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย บริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก เปิดเผยว่า จากสถิติของซีบีอาร์อีพบว่า ยอดขายโครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่โดยซีบีอาร์อีในปี 2564 มีสัดส่วน 27% ของยอดขายโครงการที่พักอาศัยทั้งหมด โดย 84% ของโครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ที่ปิดการขายเป็นโครงการ Branded Residence ที่บริหารโดยเครือโรงแรมระดับห้าดาว ในขณะที่โครงการระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่อื่นๆ มีสัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 16% 

ทั้งนี้ ยอดขายโครงการประเภท Branded Residence มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 503% สืบเนื่องมาจากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นในขณะที่ซัพพลายใหม่มีจำกัด ความเชื่อถือของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์สินค้า และทำเลที่ตั้งที่อยู่ในไพร์มโลเคชั่น จึงส่งผลให้ยอดขายเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

นางสาวอาทิตยา กล่าวว่า ปัจจุบันโครงการซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ในกรุงเทพฯ มีทั้งหมด 19 โครงการ เป็นโครงการBranded Residence ระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่เพียง 7 โครงการ ซึ่งยังคงได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าและนักลงทุนระดับบนที่มีกำลังซื้อสูง โดยสามารถทำยอดขายได้สูงกว่าโครงการระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ที่ไม่ได้บริหารโดยเครือโรงแรมชั้นนำ

ทั้งนี้จากการวิเคราะห์พฤติกรรมกลุ่มลูกค้าและนักลงทุนในการเลือกซื้อโครงการ Branded Residence ในปี 2564 ของซีบีอาร์อี พบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่เลือกซื้อสำหรับการลงทุนระยะยาวเพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า(rental return) หรือสร้างผลกำไรจากการลงทุน (capital gain) หรือเก็บไว้เป็นสินทรัพย์ (asset) คิดเป็นสัดส่วน44% เลือกซื้อสำหรับเป็นบ้านหลังที่สอง 33% และเลือกซื้อสำหรับพักอาศัยเอง 23% ทั้งนี้โครงการ Branded Residence ที่ซีบีอาร์อีปิดการขาย ได้รับความสนใจจากลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ คิดเป็นลูกค้าชาวไทย95% และลูกค้าชาวต่างชาติ 5%

“ปัจจุบันลูกค้ากลุ่มลักซ์ชัวรี่นอกจากจะพิถีพิถันในการเลือกซื้อโครงการโดยต้องคำนึงถึงทำเลและคุณภาพของตัวสินค้าแล้ว ยังมีอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ความสะดวกสบายที่ได้รับจากการที่โครงการมีแบรนด์มืออาชีพระดับโรงแรมห้าดาวเข้ามาบริหารจัดการในระยะยาว ซึ่งทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจต่อตัวสินค้าว่าจะได้รับการดูแลด้วยมาตรฐานระดับโลกอยู่เสมอไม่ว่าจะผ่านเวลาไปเท่าใด อีกทั้งในแง่ของลูกค้ากลุ่มนักลงทุนที่ซื้อเพื่อปล่อยเช่า ยิ่งมีความมั่นใจว่า Branded Residence ที่มีบริการของโรงแรมระดับห้าดาวพ่วงมาด้วยแล้วนั้น จะเป็นที่ต้องการในตลาดเช่าอย่างสูง จะอยู่ในลิสต์ลำดับต้นๆ ที่ผู้เช่าระดับบนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมองหา เพราะมีความสะดวกสบายมากกว่าโครงการทั่วไป” นางสาวอาทิตยา กล่าว

โดยปัจจุบันโครงการ Branded Residence ที่แผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย เป็นตัวแทนขาย ได้แก่ “โครงการดุสิต เรสซิเดนเซส” โครงการเดียวในประเทศไทยที่ผู้พัฒนาโครงการเป็นเจ้าของแบรนด์โรงแรมระดับห้าดาวมาตรฐานระดับโลก ซึ่งอยู่ภายในโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค โครงการร่วมลงทุนระหว่างกลุ่มดุสิตธานีและเซ็นทรัลพัฒนา เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสมผสานหรือมิกซ์ยูส มูลค่าโครงการ 46,000 ล้านบาท พัฒนาบนที่ดินกว่า 23 ไร่ บนสุดยอดทำเล Core CBD ลุมพินีและสีลม-สาทร ที่เป็นทั้งจุดเชื่อมต่อการคมนาคมทางถนนและระบบราง เดินทางสู่ย่านธุรกิจสำคัญได้รอบทิศทาง และตรงข้ามโครงการคือสวนลุมพินี พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางเมือง  ถือเป็นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งที่ตลาดกลุ่มเป้าหมายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจและรอเข้าเยี่ยมชมห้องตัวอย่าง ซึ่งขณะนี้ได้เปิดให้ลูกค้าได้เยี่ยมชมโครงการแล้ว และได้รับกระแสตอบรับอย่างดีมาก

“สำหรับปี 2565 ซีบีอาร์อีเชื่อว่าโครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ประเภท Branded Residence จะยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มองหาที่พักอาศัยบนทำเลย่านธุรกิจ ใจกลางเมืองและมีเซอร์วิสที่ได้มาตรฐานการบริการจากเครือโรงแรมระดับห้าดาว ซึ่งโครงการประเภทนี้มีความคุ้มค่าแก่การอยู่อาศัยเองและการลงทุน เป็นองค์ประกอบที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบัน” นางสาวอาทิตยา กล่าว