“สมพงษ์” ห่วงความรู้สึกประชาชนมองจับ “เพนกวิน” เป็นการกลั่นแกล้งหนุนนายกฯรับฟังนักศึกษา อย่ามองผู้เห็นต่างเป็นศัตรู

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีมีการจับกุมนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน หนึ่งในแกนนำนักศึกษาว่า เรื่องนี้ต้องดูข้อกฎหมายก่อน แต่กังวลว่า อาจจะเป็นการตอบโต้กันหรือไม่ เพราะนายพริษฐ์เป็นผู้เคลื่อนไหวอย่างหนักช่วงที่มีการจับกุมแกนนำนักศึกษาก่อนหน้านี้ หากมีการจับกุมผู้ที่มีลักษณะเช่นนี้ก็มีหลายคน ทำไมจึงเจาะจงจับกุมนายพริษฐ์  จึงต้องดูว่า การจับกุมตามข้อหาความผิดอาญามาตรา 116 อยู่ในขอบข่ายหรือไม่ แต่เมื่อมีหมายจับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดำเนินการ ซึ่งภาครัฐต้องพิจารณาเรื่องข้อกฎหมายให้ถ่องแท้ แต่ความรู้สึกประชาชนอาจมองว่า เป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ ตนเป็นห่วงตรงนี้

นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนสถานการณ์จะบานปลายหรือไม่นั้น ตนไม่สามารถบอกได้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตก็ลักษณะคล้าย เช่นนี้ ตนไม่อยากให้เกิดขึ้น และตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เคยรับปากไว้ว่าจะรับฟังกลุ่มนักศึกษาบ้าง แต่การกระทำยังไม่เกิด ตำรวจก็ดำเนินการ ตนไม่ทราบว่าเบื้องลึกเป็นอย่างไร อาจจะมีการกระซิบสั่งกันหรือไม่เราไม่รู้ หากพูดไปก็ไม่มีข้อมูลที่แท้จริงจึงอยากให้ระมัดระวัง แต่ขออย่าได้มองผู้เห็นต่างเป็นศัตรู เพราะจะทำให้เกิดปัญหาบานปลายในอนาคต แล้วจะยุ่งเหยิงกันไปหมด

ดังนั้นเมื่อมีการชุมนุม รัฐบาลอย่าไปคิดว่าผู้เห็นต่างว่าเป็นศัตรู ทำอย่างไรก็แล้วแต่ให้สถานการณ์เรียบร้อยเบาบาง และรับฟัง ถ้านายกฯ เปิดรับฟังทุกคนก็เชื่อ ถ้าอยากรู้กลุ่มนักศึกษาคิดอย่างไรก็ควรเปิดรับฟัง ไม่ใช่อยู่เฉยๆ แล้วปล่อยให้เหตุการณ์บานปลาย สำหรับกรณีส.ส.พรรคเพื่อไทย เดินทางไปสังเกตการณ์การจับกุมนายพริษฐ์นั้นไปในฐานะคณะทำงานเพื่อติดตามการชุมนุมของกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชน ในคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ที่มีการตั้งขึ้นมา

เมื่อถามว่า ส.ส.เพื่อไทยไปเพื่อสังเกตการณ์หรือสนับสนุน นายสมพงษ์ กล่าวว่า การสนับสนุนคงไม่ใช่ แต่เราเห็นว่า ไม่ถูกต้อง ก็อาจจะไปช่วยประกันตัวให้เขาออกมาแก้ต่าง และการแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้คงต้องส่งสัญญาณกันในสภาฯให้ประชาชนได้รับทราบ