สภาพัฒน์วางกลยุทธ์ตีกันส.ส.รุมทึ้งเงินกู้ 4 แสนล้านบาท

  • แห่ขอทะลุไป 5.9แสนล้านบาทแล้ว
  • สร้างเว็บไซต์ให้ประชาชนตรวจสอบ
  • ตั้งแต่เริ่มต้นยันประเมิน

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.หรือ สภาพัฒน์)ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ได้เปิดแถลงข่าว เรื่อง “การใช้เงินกู้ตาม พ.ร.ก.ในส่วนของการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 400,000 ล้านบาท” ว่า จนถึงวันที่ 5 มิ.ย.2563 มีการเสนอโครงการเข้ามาแล้ว 28,425 โครงการ รวมวงเงิน 590,000 ล้านบาท ซึ่งทางคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ยังต้องพิจารณากลั่นกรองและตัดทอนกันอีก อีกทั้งยังเปิดให้เสนอโครงการในรอบที่ 2 เข้ามาได้จนถึงวันที่ 9 ก.ค.2563 พร้อมกันนี้ได้วางกระบวนการให้ภาคประชาชน ประชาสังคมติดตาม ตรวจสอบการใช้เงินกู้ตั้งแต่ขั้นตอนการเสนอขอโครงการ การอนุมัติ การดำเนินโครงการ จนถึงขั้นการประเมินผลของโครงการ ผ่านเว็บไซต์ ThaiME หรือ http://thaime.nesdc.go.th ซึ่งอยู่ระหว่างจัดทำ


ส่วนประเด็นที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร(ส.ส.)ประกาศแบ่งงบก้อนนี้กันคนละ 80 ล้านบาท นายทศพร กล่าวว่า ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่า ส.ส.จะเอาไปแบ่งกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ด้วยกระบวนการทั้งหมดที่สภาพัฒน์จัดทำจะป้องกัน ส.ส.เอางบไปแบ่งกันได้หรือไม่ นายทศพร กล่าวยืนยันว่า ส.ส.คงทำเช่นนั้นไม่ได้ และที่มีการแถลงข่าวครั้งนี้ก็เพื่อให้ช่วยกันออกข่าวและดูว่า โครงการทั้งหมดมาอยู่ในถังข้อมูลของสภาพัฒน์แล้ว ช่วยกันดูหน่อยว่าโครงการใด “ใช่เลย มีประโยชน์ ตอบโจทย์จริงๆ” จะทำให้การพิจารณาโครงการรอบคอบเพิ่มมากขึ้น ปัญหาที่จะแทรกซ้อนตามที่ถามมาจะได้คลายตัวลงไป โดยในวันนี้จังหวัดกลั่นกรองการระดับหนึ่ง มีสภาพัฒน์กลั่นกรองแล้ว ต้องการให้ภาคประชาชนมาช่วยด้วย


“โครงการที่เสนอมาแล้ว ประกอบด้วย 1.โครงการเพื่อปรับปรุงการผลิต การท่องเที่ยว เกษตรมูลค่าสูง เสนอเข้ามา 91 โครงการ วงเงิน 220,000 ล้านบาท 2.เศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจชุมชน ซึ่งเสนอมาจากท้องถิ่นแล้ว 55 จังหวัด 28,331 โครงการ วงเงิน 372,532 ล้านบาท ซึ่งแยกเป็นโครงการที่เสนอโดยจังหวัด 4,185 โครงการ วงเงิน 53,779 ล้านบาท โดย อบจ. 823 โครงการ วงเงิน 16,559 ล้านบาท โดยเทศบาล-อบต. 20,407 โครงการ วงเงิน 79,141 ล้านบาท และ ส่วนราชการเสนอผ่านจังหวัด 2,781 โครงการ วงเงิน 54,161 ล้านบาท นอกจากนี้ มีส่วนราชการ 13 กระทรวงและ 4 หน่วยงานที่ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี เสนอมา 115 โครงการ วงเงิน 168,889 ล้านบาท”


นายทศพร กล่าวว่า วงเงินที่เสนอมาข้างต้นยังไม่รวมการแจกคูปองท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ในหมวดกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือและเอกชน และยังมีข้อเสนออีก 3 โครงการในการทำแพล็ตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งวงเงินไม่สูงมากนัก โดยทางสภาพัฒน์จะกลั่นกรองโครงการเบื้องต้นจนถึงวันที่ 15 มิ.ย.นี้ หากโครงการใดไม่ตรงวัตถุประสงค์จะแจ้งให้ทราบเลยว่าไม่ได้ เช่น สร้างถนน สร้างสนามบิน นอกจากนั้น โครงการใดต้องปรับแต่งก็จะให้นำไปปรับปรุงโครงการเสนอกลับมาในรอบสอง ส่งได้จนถึงวันที่ 9 ก.ค.2563 และให้รวมถึงคนที่ส่งโครงการในรอบแรกไม่ทัน ในระหว่างนี้ก็ยังสามารถส่งมาได้จนถึงวันที่ 9 ก.ค.นี้เช่นกัน


สำหรับขั้นตอนการกลั่นกรอง ในขั้นแรก คณะทำงานจะวิเคราะห์โครงการและเปิดให้ประชาชนแสดงความเห็นและร่วมกลั่นกรอง ขั้นที่สองคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้จะพิจารณา และขั้นสุดท้ายจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) รวมแล้วจะมีการกลั่นกรอบ 3 ระดับ โดยล้อตแรกจะเสนอ ครม.อนุมัติโครงการเพื่อให้มีเงินเข้าสู่ระบบเดือนก.ค.นี้ ส่วนโครงการสุดท้ายภายใต้เงินกู้นี้ต้องดำเนินการให้เสร็จก่อนเดือนธ.ค. 2564


“ในเบื้องต้นระหว่างที่เว็บไซต์ ThaiME ยังจัดทำไม่เสร็จ สภาพัฒน์ได้นำข้อมูลโครงการลงไว้ในเว็บไซต์ของสภาพัฒน์ www.nesdc.go.th ไว้ก่อน และต่อไปเมื่อเว็บไซต์ ThaiME จัดทำเสร็จช่วยต้นเดือนก.ค.นี้ ก็จะโอนข้อมูลไปใส่ไว้ ซึ่งประชาชนที่เข้ามาดูจะเห็นความคืบหน้าของแต่ละโครงการที่ได้รับอนุมัติเงินกู้ว่าเดินหน้าไปถึงไหน เช่น โครงการโคกหนองนา มีการขุดบ่อจริงหรือไม่ คนในพื้นที่ได้ประโยชน์จริงหรือเปล่า หากไม่เป็นไปตามแผนจะส่งผู้ตรวจราชการไปดูในพื้นที่ได้ รวมทั้งส่งข้อมูลให้ ปปท. ปปช.และสตง.ตรวจสอบได้ด้วย”