ศุภชัย นำทีมหมอ โต้ “สุทิน” แฉ “วิโรจน์ สุ่มใหญ่” อดีตคณะกรรมการ INCB ออกแล้วมาทำธุรกิจกัญชา

  • ย้ำ สธ. พยายามคุมกัญชา ไม่เกิดสุญญากาศกฎหมาย
  • ยันไทยได้แก้กฎหมายให้สอดคล้อง ขอให้มั่นใจการดำเนินการของรัฐบาล
  • ยอมรับ “อนุทิน” เคยมีหุ้นในบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ทำกัญชาจริง
  • ชี้แต่พื้นที่ชลบุรีอากาศไม่เหมาะสม บริษัทจึงตัดสินใจยกเลิกไม่ประกอบธุรกิจไปตั้งแต่ปี 64

นายศุภชัย ใจสมุทร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (..) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย นำข้าราชการระดับสูงสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมแถลงชี้แจงประเด็นการปลดล็อกกัญชา ตามที่มีข้อกล่าวหาอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอนุทินชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก กล่าวยืนยันว่า บุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่สามารถแปรรูปสมุนไพรจากกัญชา ซึ่งมีกฎหมายรองรับชัดเจนในมาตรา 46 ของพระราชบัญญัติ (...) คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ที่ห้ามไม่ให้บุคคลที่เกี่ยวข้องแปรรูปกัญชาเป็นสมุนไพรได้

จึงไม่ใช่สุญญากาศทางกฎหมายอย่างที่ถูกกล่าวหา ที่ผ่านมา กรมพยายามควบคุม ดำเนินการให้บุคคลที่อาจจะยังไม่รู้ข้อกฎหมาย เลิกหรืองดการกระทำซึ่งเป็นความผิดทางอาญา ทางกรมไม่อยากดำเนินคดีกับคนที่ยังไม่รู้” นายแพทย์ยงยศ กล่าว

ขณะที่ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ชี้แจงถึงประเด็นภาคีอนุสัญญาเดี่ยว ซึ่งไทยได้เข้าร่วมกับสหประชาชาติ เดิมมีตารางการควบคุมการใช้กัญชา 2 ตารางคือ ตารางที่ 1 สามารถใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ และ ตารางที่ 4 เป็นยาเสพติด ซึ่งต่อมาองค์กรสหประชาชาติได้แก้ไขให้เหลือตารางที่ 1 เพียงตารางเดียว พร้อมยืนยันว่า ไทยได้แก้กฎหมายให้สอดคล้อง ขอให้มั่นใจว่าการดำเนินการของรัฐบาลสอดคล้องกับอนุสัญญาเดี่ยวทุกประการ

ด้าน นายศุภชัย ยังชี้แจงต่อกรณีที่ นายสุทิน คลังแสง .จังหวัดมหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวอ้างถึงบุคคลที่ 3 คือ ดร.วิโรจน์ สุ่มใหญ่ ที่เคยทำงานในคณะกรรมการควบคุมสารเสพติดนานาชาติ (INCB) กลัวประเทศไทยกำลังทำผิดข้อตกลง ในการลงนามอนุสัญญาเดี่ยวนั้น นายศุภชัย ระบุว่า หลังจากที่ ดร.วิโรจน์ หมดวาระได้กลับมาประเทศไทยและประกอบธุรกิจเกี่ยวกับกัญชา ดังนั้น หากกัญชาผิดกฎหมายคงไม่คิดมาทำ และหากผิดอนุสัญญาก็คงไม่ทำ ดังนั้น ไม่ทราบว่า ดร.วิโรจน์ หรือ .ที่อภิปรายผิดหรือถูก พร้อมย้ำว่า ดร.วิโรจน์ มาประกอบธุรกิจในไทยซึ่งเป็นคนที่ ..นั้นกล่าวอ้าง ดังนั้น คนที่ผิดคือคนอภิปรายไม่ใช่นายอนุทิน

นายศุภชัย ยังชี้แจงถึงกรณีที่มีการกล่าวหานายอนุทินเอื้อผลประโยชน์ตนเอง โดยย้ำว่า นายอนุทิน มีหุ้น และให้บริษัท เกียรตินาคิน เป็นผู้บริหารทรัพย์สินทั้งหมด ส่วนบริษัทจะถือหุ้นในบริษัทใดก็แล้วแต่บริษัทนั้น โดยบริษัท ไทยคานาบิส ที่ปรากฏในข่าวนั้น ยอมรับว่า มีวัตถุประสงค์ในการทำกัญชาจริง แต่จังหวัดชลบุรีอากาศไม่เหมาะสมบริษัทจึงตัดสินใจยกเลิกไม่ประกอบธุรกิจ ตั้งแต่ปี 2564 ทั้งนั้นในเมื่อบริษัทไม่มีประโยชน์อะไร นายอนุทินจึงไม่ได้ประโยชน์อะไรจากบริษัทนี้ ซึ่งใบอนุญาตที่ได้มาก็ยกเลิกไปแล้วด้วย