“ศุภชัย”ขอบคุณ 2 กูรู กม.ช่วยแจงกัญชาไม่ใช่ยาเสพติด-ย้ำ เป็นพืชเศรษฐกิจ ยารักษาโรค พร้อมฉะนักการเมืองบางคน ทบทวนจิตสำนึก ดีแต่ขู่!ประชาชนแต่ไม่คิดช่วยเหลือ

นายศุภชัย ใจสมุทร รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด รัฐสภา และ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Suphachai Jaismut ระบุว่า

ขอบคุณที่ยืนเคียงข้างประชาชน

การที่ผมออกมาให้ข่าวเรื่องประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ที่ประกาศใช้ไปเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ซึ่งไม่มีชื่อของกัญชาอยู่ในกฎหมาย ที่แปลว่า กัญชา ไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไป แต่กลับมีการจับกุมลงโทษ โดยอ้างอำนาจตามกฎหมายตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 ซึ่งไม่ควรจะทำได้ เพราะผมทนเห็นประชาชน คนยากคนจนต้องถูกกระทำ ผมจึงต้องออกมาเพราะผมเป็นผู้แทนราษฎร ตัวแทนของประชาชน

แน่นอนว่า การเคลื่อนไหวของผม ทำให้สังคมได้ออกมาขบคิดถึงสถานะของกัญชา ณ ปัจจุบัน ว่าอยู่ในจุดไหน

สำหรับผม และพรรคภูมิใจไทย กัญชา คือ ยารักษาโรค และยาแก้จน ว่ากันตามกฎหมายแล้ว เมื่อ “กฎหมายแม่” ระบุว่า กัญชา ไม่ใช่ยาเสพติด เรื่องของการจับกุมผู้ป่วยที่ปลูกไว้รักษาตัวเอง ก็ควรจะหมดสิ้นไปเสียที เพราะเจตนารมณ์ของกฎหมายยาเสพติดฉบับปัจจุบัน ก็ชัดเจนว่า ให้กัญชา เป็นพืชสมุนไพร และเป็นพืชเศรษฐกิจ จึงทำให้ไร้ชื่อกัญชาในฐานะยาเสพติด

ขณะที่มาตร 8 ก็ระบุ ชัดเจนว่า หากจะต้องนำระเบียบ ประกาศ ฯลฯ มาใช้ ก็ขอให้ดูประมวลกฎหมายเป็นหลัก จะบังคับใช้ให้ขัดแย้งกันมิได้
กฎหมายระบุไว้แบบนี้ครับ

“บรรดากฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที่ออกตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ที่ใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายยาเสพติด ท้ายพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้ยังคับได้ต่อไปเพียงเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับประมวล
ยาเสพติดท้ายพระราชบัญญัตินี้”

แต่พบว่าเจ้าหน้าที่รัฐบางท่าน มีความเห็นที่ต่างออก ไปยกเอากฎหมายตั้งแต่ปี 2522 มาจับ แล้วมาอ้างว่า เพราะกระทรวงสาธารณสุข ยังไม่ได้ออกประกาศ ระเบียบ ฯลฯ บังคับใช้ ซึ่งก็ถูกต้อง

แต่ผิดหลักการ

เพราะ มาตรา 8 ในกฎหมายฉบับใหม่เขียนไว้ชัด ว่า การจะยกเอาระเบียบ ประกาศ มาใช้ได้ ก็ต่อเมื่อไม่ขัดกับประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับปัจจุบัน

หลักการของผมถูกต้อง แต่ที่ผ่านมาเหมือนผม และพรรคภูมิใจไทยสู้อย่างโดดเดี่ยว กระทั่ง 2-3 วันที่ผ่านมา มีผู้รู้จริงด้านกฎหมายหลายท่านออกมาชี้แจง ข้อเท็จจริงทางกฎหมาย ซึ่งผมและพรรคภูมิใจไทย ต้องขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ท่านออกมายืนเคียงข้างประชาชนและผู้ป่วย

ทั้ง ท่านวิชา มหาคุณ และ ท่านวันชัย บุนนาค ความรู้ที่ท่านนำเสนอแก่สาธารณะ น่าจะช่วยสะกิดเตือนเจ้าหน้าที่รัฐบาง คน ไปจนถึงการเป็นแสงสว่างด้านกฎหมายให้กับประชาชน

ขอบคุณท่านวิชา ที่ช่วยตอกย้ำว่า หลักการ การบังคับใช้กฎหมาย ที่ถูกต้องยุติธรรม

ขอบคุณท่านวันชัย ที่ออกมาย้ำ สถานะ ของกัญชา ว่าไม่ใช่ยาเสพติดแล้ว

ทำให้เรามีความมั่นใจที่จะขับเคลื่อน ปลดล็อกกัญชา ต่อไป ประโยชน์ของกัญชา จะต้องตกแก่ประชาชนครับ

เรื่องนี้ไม่มีใครแพ้หรือใครชนะ หากแต่ควรคิดว่าประชาชนจะได้ประโยชน์หรือไม่

สำหรับนักการเมืองบางท่าน ที่ยังมีแนวคิดคัดค้านกัญชา ชนิดว่าออกมาให้ข่าวเหน็บแนม สร้างความกลัว แทนที่จะช่วยเหลือสร้างโอกาสให้ประชาชน แต่กลับทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง ทั้งที่นี่คือ โอกาสในการรักษาโรค โอกาสในการสร้างรายได้ ก็ขอให้สำนึกบทบาทด้วยว่า

หน้าที่ของท่านคือขัดขวาง หรือสร้างโอกาสให้กับประชาชนกันแน่

ปลดล็อกกัญชา