“ศักดิ์สยาม” เดินหน้าปั้น“สถาบันราง”เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ระบบ รางแบบครบวงจร-มั่นใจทำเองใช้เองในประเทศไม่ง้อต่างประเทศ ตามนโยบาย Thai First

ศักดิ์สยาม” เดินหน้าปั้น “สถาบันราง”ส่งกรมการขนส่งทางรางจับมือสถาบันการศึกษา ผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ ศึกษา และวิจัยชิ้นส่วนในระบบราง-รถไฟ รถไฟฟ้า รวมถึงให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีโครงการรถไฟความเร็วสูง ให้ใช้เองในประเทศ ไม่ง้อต่างประเทศ ตามนโยบาย Thai First หลังรัฐบาลผลักดันสร้างรถไฟฟ้า รถไฟ ทั่วไทย

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม ติดตามความก้าวหน้าการจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน)ว่า การผลักดันให้มีการจัดตั้งสถาบันรางดังกล่าวเพื่อให้ทำหน้าที่จัดทำยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีระบบรางของประเทศ วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี
ระบบราง ซึ่งร่วมมือกับองค์กรทั้งในและต่างประเทศในการพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง พัฒนาบุคลากรด้านระบบราง และจัดทำฐานข้อมูลด้านเทคโนโลยีระบบราง โดยมีเป้าหมายเร่งด่วน คือ วิจัยชิ้นส่วนในระบบราง เพื่อให้สามารถผลิตรถไฟในประเทศ (Local Content) ได้ตามนโยบาย Thai First รวมทั้งการวิจัยเพื่อสร้างรถไฟ EV มาใช้ในประเทศไทย พร้อมกับการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน 

ทั้งนี้ตนจึงได้สั่งการเพิ่มเติมให้กรมการขนส่งทางราง(ขร.)จัดให้สถาบันวิจัยฯ สร้างความร่วมมือร่วมกับสถาบันการศึกษา โดยให้จัดทำกรอบความร่วมมือ (MOU) กับแต่ละสถานศึกษาในประเทศ ในเรื่องการวิจัยและบุคลากร รวมถึงให้ประสานความร่วมมือกับต่างประเทศและจัดทำกรอบความร่วมมือ (MOU) ในการถ่ายทอดเทคโนโลยี การวิจัยฯ และบุคลากร รวมถึงการจัดทำแผนกลยุทธ์ (Roadmap) การประสานความร่วมมือให้ชัดเจน และสั่งการให้กรมการขนส่งทางรางหารือกับหน่วยงานผู้ให้บริการระบบราง (Operator) เกี่ยวกับชิ้นส่วนระบบรางที่ต้องการใช้ในการซ่อมบำรุง เพื่อเป็นข้อมูลให้สถาบันวิจัยฯ วางแผนการวิจัยและผลิตชิ้นส่วนเหล่านั้นทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าในการจัดตั้งสถาบันรางขณะนี้นั้น  กรมการขนส่งทางรางอยู่ระหว่างการดำเนินการ เรื่อง บุคลากรที่จะมาช่วยดำเนินงานวิจัยในสถาบันวิจัยฯ โดยได้บูรณาการร่วมกันกับมหาวิทยาลัยท้องถิ่นที่มีโครงการพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง และพิจารณาการนำผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่ได้มีการทำกรอบบันทึกความร่วมมือกับกระทรวงคมนาคมเพื่อมาช่วยตั้งต้นสถาบันวิจัยฯ ในระยะแรก นอกจากนั้นได้มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พิจารณากำหนดในสัญญาที่จะลงนามใหม่หรือพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดในสัญญาที่ได้ลงนามแล้ว โดยให้สถาบันวิจัยฯ ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบรางจากเอกชนคู่สัญญา และให้ครอบคลุมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานของสถาบันวิจัยฯ ด้วย ซึ่งกรมการขนส่งทางรางจะมีการติดตามความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวต่อไป

สำหรับโครงสร้างสถาบันวิจัยฯ จะถูกจัดเป็น 7 ศูนย์ความเป็นเลิศ และ 1 สำนักงาน เพื่อความคล่องตัวในการดำเนินงานของสถาบันวิจัย ได้แก่ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านรถไฟความเร็วสูง (Excellent Center of High Speed Rail Tech.) ทำหน้าที่เกี่ยวกับ วิจัย พัฒนา รับและถ่ายทอดเทคโนโลยี พัฒนาองค์ความรู้ด้านการเดินรถและบำรุงรักษารถไฟความเร็วสูง ,ศูนย์ความเป็นเลิศด้านรถไฟขนส่งสินค้า (Excellent Center of Freight Rail Tech.) ทำหน้าที่เกี่ยวกับ วิจัย พัฒนา รับและถ่ายทอดเทคโนโลยี พัฒนาองค์ความรู้ด้านการเดินรถ และบำรุงรักษารถไฟขนส่งสินค้า ,ศูนย์ความเป็นเลิศด้านรถไฟฟ้าในเมือง (Excellent Center of Metro Rail Tech.) ทำหน้าที่เกี่ยวกับ วิจัย พัฒนา รับและถ่ายทอดเทคโนโลยี พัฒนาองค์ความรู้ด้านการเดินรถและบำรุงรักษารถไฟฟ้าในเมือง ,ศูนย์ความเป็นเลิศด้านแบตเตอรี่สำหรับรถไฟ (Excellent Center of Battery Power Tech.) ทำหน้าที่เกี่ยวกับการวิจัย พัฒนา รับและถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบพลังงานอนาคตสำหรับรถไฟ เช่น Battery รถไฟ EV เป็นต้น ,

นอกจากนั้น ยังเป็นศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมระบบรางและการออกแบบสำหรับผู้โดยสาร (Excellent Center of Innovation Rail Tech.) ทำหน้าที่เกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีระบบรางในอนาคต เช่น MAGLEV TOD เป็นต้น ,ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการพัฒนาบุคลากรระบบราง (Excellent Training Center) ทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้และฝึกอบรมเทคโนโลยีระบบราง เช่น รถไฟความเร็วสูง ความรู้ทางด้านรถไฟ เป็นต้น

รวมถึงเป็นศูนย์ความเป็นเลิศด้านข้อมูลระบบราง (Excellent of Rail Data Center) ทำหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลระบบรางทั้งระบบ เช่น งานวิจัยด้านระบบราง ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบราง องค์ความรู้ด้านระบบราง นอกจากนี้ จะทำวิจัย พัฒนา รับและถ่ายทอดเทคโนโลยี ที่เกี่ยวกับซอร์ฟแวร์ที่ใช้ในระบบราง ระบบอาณัตสัญญาณ 5G และความปลอดภัยทางดิจิทัล และ สำนักบริหารงานทั่วไป ทำหน้าที่ในการบริหารงานทั่วไป ทางด้านการเงิน/การบัญชี บุคลากร สถานที่ รวมถึง การจดทะเบียนสิทธิบัตรการวิจัย