“ศักดิ์สยาม” ทุบโต๊ะทวงสิทธิ์ ยื่นฟื้นฟูก่อนถูกแอร์บัสยึดเครื่องการบินไทย

เจ้ากระทรวงคมนาคม ทุบโต๊ะใช้สิทธิกระทรวงผู้กำกับดูแลกิจการ และการบริหารงานการบินไทย รวมทั้งการตัดสินใจนำเสนอนายกรัฐมนตรี และครม.เห็นชอบแผนการฟื้นฟูกิจการการบินไทยภายใต้คำส่ังศาลล้มละลายกลาง ก่อนที่เจ้าหนี้ต่างประเทศจะใช้สิทธิ์ยื่นยึดทรัพย์การบินไทยในต่างประเทศ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม พร้อมด้วย นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ได้ประชุมผ่านระบบออนไลน์ร่วมกับ คณะกรรมการบอร์ดการบินไทย และนายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทย เมื่อวานนี้ (20 ..) เพื่อหารือเรื่องการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ และความพร้อมของการบินไทยหลังกระทรวงการคลังลดสัดส่วนการถือครองหุ้น 51% ลงเหลือ 47% โดยขายให้แก่กองทุนวายุภักษ์ในสัดส่วน 65 ล้านหุ้นเศษ ในราคา 4 บาทจากราคา 14 บาท 

ทั้งนี้เพื่อให้กระบวนการฟื้นฟูกิจการภายใต้คำส่ังศาลล้มละลายกลาง ดำเนินการได้ตามแผนการที่วางไว้นับตั้งแต่วันที่ครม.มีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 19 .กระท่ังมีการแต่งตั้งคณะผู้บริหารแผนเพื่ออนำเรื่องร้องขอต่อศาล ในการฟื้นฟูกิจการกระท่ังศาลล้มละลายกลางดำเนินการ ตามกำหนดระยะเวลาได้เร็วที่สุดภายในเดือน ..นี้ นับแต่การเสนอแผนฟื้นฟูตัวเอง ตั้งคณะทำงานเจรจาเจ้าหนี้ ขอพักชำระหนี้ ปรับโครงสร้างองค์กรภายใต้คำส่ังศาล ขอแต่งตั้งผู้บริหารแผน ประชุมเจ้าหนี้ กระท่ังถึงการขออนุมัตศาลดำเนินการฟื้นฟู กิจการตามแผน เป็นต้น

การประชุมผ่านระบบออนไลน์ ในครั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ขอให้ฝ่ายการบินไทยนำเสนอตัวเลขสภาพคล่องเงินสด ค่าใช้จ่ายโดยรวมในเร่ืองของน้ำมัน บัญชีเจ้าหนี้ และสัญญาการจัดทำระบบเช่าซื้อหรือลีสซิ่งมาให้กระทรวงคมนาคมดูเป็นอันดับแรกก่อน เพื่อความโปร่งใส และความสมานฉันท์ในการร่วมกันจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ ตามข้อเสนอของกระทรวงคมนาคมที่ นายกรัฐมนตรี และที่ประชุม ครม.ให้ความเห็นชอบด้วย

ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ ผมเปิดโอกาสให้การบินไทยนำเสนอผู้ที่เขาเห็นว่ามีความรู้ความสามารถในการบริหารแผน และใช้สิทธิในการเป็นผู้ถือหุ้นเพ่ือจัดหาที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ปรึกษาด้านกฏหมานระหว่างประเทศ ซึ่งการบินไทยรับจะเป็นผู้จัดการแผนฟื้นฟูกิจการ ให้เป็นไปตามกำหนด

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากนายกรัฐมนตรี มอบให้กระทรวงคมนาคมในฐานะผู้เสนอให้ครม.ตัดสินใจนำการบินไทยเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการภายใต้คำส่ังศาล สามารถใช้อำนาจหน้าที่กำกับดูแลการดำเนินการต่างๆของฝ่ายการบินไทยได้อีกทอดตามที่กฏหมายกำหนด และตามข้อตกลงที่เคยทำร่วมกันระหว่างกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ จะไม่เข้ามายุ่งหรือก้าวก่าย การกำกับดูแลกิจการของกระทรวงคมนาคม

รมว.คมนาคม กล่าวว่า เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องยื่นคำร้องไปยังศาลล้มละลายกลาง ควบคู่ไปกับการขอเข้าฟื้นฟูกิจการตามกฏหมายล้มละลายของสหรัฐ “Chapter 11” เพื่อป้องกันทรัพย์สินต่างๆของการบินไทยในต่างประเทศไม่ให้ถูกเจ้าหนี้ขอยึดทรัพย์ในต่างประเทศ

เป็นความโชคดีที่กระทรวงคมนาคม นำเสนอนายกรัฐมนตรี และที่ประชุมครม.ตัดสินใจเร่ืองนี้ได้ทันเวลาก่อนที่บริษัทแอร์บัส ของ ฝร่ังเศส กำลังเตรียมยื่นศาลล้มละลายขอยึดทรัพย์การบินไทย ในกรณีที่ไม่มีเงินจ่ายหนี้ค่าเคร่ืองบิน หาก แอร์บัส ทำได้ก่อน ประเทศไทยจะเสียหายอย่างหนัก เพราะการบินไทยจะไม่สามารถทำการบินได้เลยหมายความต้องหยุดกิจการทันที และนำทรัพย์สินที่มีอยู่ขายทอดตลาด” 

ทั้งนี้  ปัจจุบัน หนี้สินของการบินไทย อยู่ที่ 250,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ภายในประเทศ 150,000 ล้านบาท ส่วนหนี้ต่างประเทศอยู่ที่ราว 90,000 ล้านบาท โดยหนี้ต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นหนี้จากการเช่าเครื่องบิน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตลอดช่วงเวลาของการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ ฟื้นฟูกิจการภายใต้คำส่ังศาลนายสมคิดจาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่เห็นด้วยกับวิธีการนี้ หากแต่ต้องการจะใส่เงินเข้าไปช่วยการบินไทย สองระลอกจาก 54,000 ล้านบาท เพื่อช่วยสภาพคล่อง และเพิ่มทุนอีก 80,000 ล้านบาทนั้น 

ปรากฏว่า นายสมคิด ไม่ยอมเข้าร่วมประชุมกับกระทรวงคมนาคม หรือคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธานมา 4 ครั้งด้วยกัน กระท่ังล่าสุดในการประชุมครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาก็ไม่ยอมเข้าร่วมประชุมด้วยอ้างว่า เบาหวานขึ้น แต่กลับอยู่เบื้องหลังให้การบินไทย ไม่ปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูที่ ครม.เห็นชอบ