“ศักดิ์สยาม”ไม่ท้อลุยสู้คดี”โฮปเวลล์

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้ประชุมหารือร่วมกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)และทีมกฎหมาย เพื่อเตรียมข้อมูลและแผนขั้นตอนการดำเนินงานในการต่อสู้คดีโฮปเวลล์ใหม่ โดยที่ประชุมมีข้อสรุปว่า กระทรวงคมนาคมและ รฟท.จะมีหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อขอความอนุเคราะห์แต่งตั้งพนักงานอัยการพิจารณาดำเนินการในคดีแทนกระทรวงคมนาคมและ รฟท. รวมถึงมีมติให้ นายพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค เป็นผู้ประสานงานคดีนี้ โดยคณะจะดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 18 มี.ค. 65 ซึ่งพนักงานอัยการก็ได้รับทราบและยินดีรับข้อเสนอของกระทรวงคมนาคมและ รฟท.


“การประชุมได้มีการหารือถึง Action Plan ที่ต้องดำเนินการภายในกรอบระยะเวลาของกฎหมายที่กำหนดไว้ในการฟ้องคดีต่อศาล โดยจะมี นายพีระพันธุ์ เป็นหัวหน้าทีม ในการสืบค้นพยานหลักฐาน และข้อพิรุธต่าง ๆ ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่คมนาคม และ รฟท.ได้มีโอกาสต่อสู้โดยคดี และได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานอัยการสูงสุดในการต่อสู้คดีไปด้วยกัน”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีโฮปเวลล์นั้น ศาลปกครองได้มีคำพิพากษาเมื่อเดือน มี.ค. 62 ให้ รฟท.จ่ายค่าชดเชยค่าตอบแทนให้โฮปเวลล์จำนวน 24,000 ล้านบาท หลังจากนั้นกระทรวงคมนาคมและ รฟท. ได้ยื่นขอให้ศาลมีการพิจารณาคดีใหม่ ซึ่งล่าสุดศาลปกครองกลางได้อ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 65 ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้รับคำขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไว้พิจารณา

สำหรับแนวทางการต่อสู้คดีเบื้องต้น กระทรวงคมนาคม โดย รฟท.นั้นจะนำประเด็นต่อสู้ในประเด็นปัญหาข้อกฎหมายที่ว่าด้วยเรื่องของ อายุความ หรือการนับระยะเวลาการฟ้องคดีตั้งแต่วันที่รู้ หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี, และประเด็นมติคณะรัฐมนตรี รวมถึงประเด็นการจดทะเบียนของบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ของบริษัทที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนั้นยังมีประเด็นบริษัทที่มาลงนามกับภาครัฐไม่ได้เป็นบริษัทที่ได้รับสัมปทานจากภาครัฐ ซึ่งจะเห็นได้ว่าโดยคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดวันนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ภาครัฐได้ต่อสู้คดีใหม่ แต่ทั้งนี้ก็ไม่จบสิ้นกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด