“ศักดิ์สยาม”เร่งออกใบอนุญาติบิน”โดรน”เพื่อการเกษตร

“ศักดิ์สยาม”ไฟเขียวปล่อยใบอนุญาติโดรนเพื่อการเกษตร คาดตุลานี้บินว่อนทั่วแปลงการเกษตร พร้อมเดินหน้าเตรียมความพร้อมด้านการบินรองรับนโยบายเปิดประเทศใน 120 วัน ส่วนการช่วยเหลือสายการบินให้ได้รับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำคมนาคมเตรียมเสนอ ครม.ขอความช่วย ส่วนการยกระดับประเทศไทยกลับคืนสู่ Category 1 โดย FAAนั้นจะเร้งรัดให้ปลดลอคได้ในปีนี้ ซึ่งจะทำให้สายการบินบินตรงไปสหรัฐได้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะประธานกรรมการการบินพลเรือน (กบร.)เปิดเผยว่า ที่ประชุม กบร.มีมติให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.)(CAAT) เร่งรัดแก้ไขกฎระเบียบ เพื่อที่จะอนุญาตให้ผู้ที่มาขอยื่นใช้โดรนขนาดใหญ่ (ที่มีน้ำหนักเกิน 25 กิโลกรัมขึ้นไป) ที่มีวัตถุประสงค์นำไปใช้งานเพื่อการเกษตรได้นำโดรนไปใช้งานโดยเร็วจากที่มีการตกค้างในการขออนุญาตจำนวนมาก ดังนั้นภายในเดือน ก.ย.นี้ กพท.จะเสนอขออนุมัติผู้ที่ขออนุญาตใช้โดรนเพื่อการเกษตรได้อย่างถูกกฎหมายทั้งหมด มายังตน  คาดว่าหลังจากนั้นภายในเดือน ต.ค.64ผู้ที่ได้รับอนุญาตจะใช้โดรนได้อย่างถูกต้องทันที ส่วนโดรนที่มีน้ำหนักไม่เกิน 25 กิโลกรัม ที่ประชุมได้รับรายงานว่า ปัจจุบันไม่มีคำขออนุญาตคงค้างเป็นจำนวนมากและใช้เวลาเกินกว่าที่กำหนดแล้วตามนโยบาย Set Zero โดยสามารถทยอยขึ้นทะเบียนได้ตามขั้นตอนและกรอบเวลาที่กำหนดตามปกติ

นอกจากนี้ที่ประชุม กบร. ยังมีมติมอบนโยบายให้ กพท.ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมการรองรับนโยบายการเปิดประเทศใน 120 วันของรัฐบาล ซึ่งในเดือน ต.ค.นี้ถือเป็นการเปิดครั้งใหญ่ที่สุดทั้งเฟส 2 และเฟส 3 รวม 26 จังหวัด รองรับการท่องเที่ยวทั้งของคนไทยและต่างชาติกระจายไปยังทุกภูมิภาคของประเทศ ประกอบกับเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (High Season) อีกด้วย โดยให้นำบทเรียนจากโครงการแซนด์บ็อกซ์ที่เปิดก่อนหน้ามาปรับปรุงแก้ไขและ           เร่งดำเนินการตามนโยบายการบินวิถีใหม่ (New Normal) ที่จะมีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาใช้ในกิจการการบินให้สามารถนำมาเริ่มใช้ได้โดยเร็ว นอกจากนั้นยังได้มอบนโยบายให้ กพท. เป็นศูนย์กลางดำเนินการร่วมกับกระทรวงคมนาคม ในการประสานงานและเตรียมการเพื่อให้บุคลากรทางการบินซึ่งปฏิบัติงานสัมผัสใกล้ชิดโดยตรงกับผู้โดยสาร ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อให้มีความพร้อมสำหรับการปฏิบัติการบิน โดยเฉพาะในช่วงการเปิดประเทศในเดือน ต.ค.นี้ด้วย

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ส่วนการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการสายการบินในประเทศที่มีสัญชาติไทย ซึ่งประสบปัญหาวิกฤตมาอย่างต่อเนื่องนั้น ได้สั่งการให้ กพท.เร่งรัดดำเนินการ ข้อมูลวิเคราะห์เชิงลึกถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหภาคและการสูญเสียความสามารถด้านกิจการการบินของประเทศ โดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงปี 68 เป็นต้นไป เพื่อเสนอข้อมูลต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความช่วยเหลือสายการบินให้ได้รับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) โดยเร็ว

นอกจากนี้ที่ประชุม กบร. ยังเน้นย้ำให้ กพท.เร่งรัดดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องที่ได้รับจากการตรวจประเมินตามโครงการยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยตามการประเมินความปลอดภัยการบินระหว่างประเทศ (IASA: International Aviation Safety Assessment) ขององค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (FAA) โดยมีเป้าหมายเดิมคือเพื่อยกระดับประเทศไทยกลับคืนสู่ Category 1 ภายในปี 64 ทั้งนี้ในการกลับสู่ Category 1 จะทำให้ไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่ระบบการกำกับดูแลความปลอดภัยการบินพลเรือนเป็นไปตามมาตรฐานของ FAA IASA ซึ่งจะส่งผลดีให้สายการบินของไทยบินตรงไปยังสหรัฐฯ ได้และทำการบินร่วมได้ตามปกติ (Code Sharing) รวมถึงยังจะส่งผลต่อการขอเพิ่มจำนวนเที่ยวบินจากไทย ไปยังประเทศอื่นที่ยึดถือผลประเมินของ FAA ด้วย เช่น เกาหลีใต้ เป็นต้น