“ศักดิ์สยาม”สวนกลับ “เต้ มงคลกิตติ์”ไม่ได้เป็นต้นตอแพร่โควิด -ถามกินนมเย็นถือว่าเสเพลก็ไม่รู้จะพูดว่าอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ได้ลุกขึ้นชี้แจง นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่อภิปรายไม่ไว้วางใจพาดพิงว่า เป็นรัฐมนตรีเสเพล ไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง ไม่ปฏิบัติตัวตามกฎหมาย เข้าไปในแหล่งอบายมุขจนเป็นต้นเหตุทำให้เกิดคลัสเตอร์ในการระบาดของโรคโควิด-19

โดยนายศักดิ์สยาม ได้ขึ้นจอภาพเป็นภาพที่ตัวเองไปนั่งรับประทานอาหาร ร่วมกับบุคคลกลุ่มหนึ่งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง พร้อมอธิบายว่า การที่คนหนึ่งคนจะมีเพื่อน จะมีน้อง ไปพักผ่อนบ้าง ในเวลาที่ไม่ใช่เวลาราชการ ในเวลาที่ไม่ได้มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด สิ่งเหล่านี้หรือที่เรียกว่าเสเพล

“ภาพที่ท่านนำมาแสดงเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 8 ธันวาคม 2563 เวลาประมาณ 20.00 น. เกี่ยวข้องอะไรกับการแพร่ระบาดโควิดในเดือนมีนาคม 256 64 ท่านไปเอารูปมาปะติดปะต่อเพื่อที่จะสร้างเรื่องให้คนเข้าใจผิด ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้ต่างหาก ถ้าจะถูกกล่าวหา ท่านน่าจะถูกกล่าวหาว่าบิดเบือนข้อมูล จากภาพดังกล่าวผมก็พยายามป้องกันสวมแมสก์ แล้วร้านอาหารที่ผมไปทาน สมาชิกหลายท่านก็เคยไปทาน เป็นร้านที่ไม่ใช่ว่าไปกินแล้วจะผิดกฎหมาย แล้วเวลาทาน ดูสิ ผมทานอะไร เครื่องดื่มที่ผมดื่มเป็นนมเย็น ถ้ากินนมเย็นแล้วถือว่าเสเพล ผมก็ไม่รู้จะพูดว่าอย่างไร” นายศักดิ์สยาม ระบุุ

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ที่บอกว่าตนอยู่ในสถานที่ เช่น ร้องเพลงคาราโอเกะ ตนก็เคยไป แต่ไม่เคยไปในช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดแน่นอน เป็นเรื่องปกติของผู้ชายคนหนึ่ง ที่มีสถานภาพโสด แล้วพักผ่อนในเวลาที่ไม่ได้ปฏิบัติราชการ มันเป็นเรื่องปกติ คนจะไปร้องเพลง ไปหัดร้องเพลง ผิดตรงไหน เคยได้ยินคำกล่าวหรือไม่ว่า ชนใดไม่มีดนตรีกาลส่อสันดานว่าอะไร ตนไม่อยากพูดรุนแรง ดังนั้น อยากถามว่า ได้เคยเปิดพจนานุกรมดูหรือไม่ว่าเสเพลแปลว่าอะไร แปลว่าไม่เอาการเอางาน

สำหรับเรื่องที่บอกว่าตนเป็นต้นเหตุแพร่ระบาดของโควิด ตนได้สอบถามอธิบดีกรมควบคุมโรค ถึงข้อมูลคลัสเตอร์สถานบันเทิง ได้รับคำตอบว่าตนไม่ได้เป็นต้นตอการแพร่ระบาดไปทั่วประเทศ เนื่องจากในช่วง 14 วัน ก่อนป่วย ไม่พบประวัติเดินทางไปยังสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ที่เป็นจุดเริ่มต้นการแพร่ระบาดระลอกเดือนเมษายน แต่ตนติดเชื้อจากการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันโรคขณะทำงาน ยืนยันว่าในช่วงที่ตนได้รับเชื้อโควิด และเข้ารับการรักษาตัวจนหาย ได้ตรวจเชื้อถึง 9 ครั้ง ก่อนออกมาปฏิบัติงาน

ดังนั้นการที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ กล่าวหาจึงเป็นเรื่องเท็จ ขณะที่ในวันที่ 6 เมษายน 2564 พรรคภูมิใจไทย จัดงานทำบุญเนื่องในวันก่อตั้งพรรค มีสมาชิกและเพื่อนๆ จากหลายพรรค ไปร่วมแสดงความยินดี พวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ได้ติดเชื้อแต่อย่างใด ฉะนั้น ข้อกล่าวหาทั้งหมดเป็นการใช้หลักฐานเท็จ ไม่น่าเป็นบรรทัดฐานที่ดี และขณะนี้มีคดีที่นายมงคลกิตติ์ ถูกฟ้องอยู่ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ หลังปิดสมัยประชุมนี้ กรุณาไปพิสูจน์ความจริง อย่ามัวแต่ใช้โซเชียล ที่ผ่านมา เคยชื่นชมที่เป็นบุคคลกล้าพูดกล้าแสดงออก  ตอนนี้สิ่งที่แสดงออกไม่น่าเชื่อถือแล้ว